Tuesday, June 2, 2015

รูปภาพของฉัน ความฝันของฉัน (我的照片我的梦)

สวัสดีค่ะ post ครั้งนี้อาจเป็นแนวรายการคนค้นคนไปบ้างนะคะ ไปอ่านเจอมาคิดว่าน่าสนใจ ให้มุมมองในสายตาของเด็กๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเราก็เคยผ่านมา เรื่องราวของเด็กบางคนอาจทำให้อมยิ้มได้ บางเรื่องก็อดเศร้าใจไปด้วยไม่ได้ ลองอ่านกันดูนะคะ

CR: www.news.sina.com.cn



รูปภาพของฉัน ความฝันของฉัน (我的照片我的梦) [wǒ de zhào piàn wǒ de mèng] (หว่อ เตอะ เจ้า เพี่ยน หว่อ เตอะ เมิ่ง)
(照片 เจ้าเพี่ยน –ภาพถ่าย) (梦 เมิ่ง-ความฝัน)


หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เมืองกุ้ยโจว บนภูเขาสูงที่ห่างไกลความเจริญทั้งหลาย มีโรงเรียนประถมเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีนักเรียนชั้นป.3-ป.6 แต่ละชั้นก็มีห้องเรียนเพียงห้องเดียว ทุกคนดำเนินชีวิตอย่างสงบและเรียบง่าย

จนกระทั่งวันหนึ่งมีคณะอาสาสมัครจากมหาวิทยาลัยชิงหัวที่ปักกิ่งได้เดินทางไปเยี่ยม พร้อมเป้าหมายในการปรับปรุงการศึกษาของเด็กๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนี้แผนปรับปรุงการศึกษาแล้ว อาสาสมัครยังเอากล้องคอมแพ็คมาให้เด็กๆ พร้อมสอนวิธีการใช้ให้ด้วย

เด็กๆ ตื่นเต้นกันใหญ่กับการได้กดชัตเตอร์และบันทึกภาพความทรงจำ บางรูปโฟกัสอาจไม่ได้ องค์ประกอบภาพอาจไม่สวยตามตำรา แต่เป้าหมายที่ให้กล้องก็เพื่อให้เด็กๆ ได้ถ่ายทอดความงามในสายตาที่ผู้ใหญ่ไม่เคยเห็นผ่านเลนส์ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวความฝันที่เด็กๆ อยากจะเป็น ความสนใจอันบริสุทธิ์งดงามของเด็ก บางครั้งทำให้เราอดอมยิ้มหรือพลอยเศร้าใจไปด้วยไม่ได้ และนี้คือส่วนหนึ่งของภาพทั้งหมดค่ะ



เด็กหญิงคนแรกอยู่ชั้นป.4 อายุ 9 ขวบชื่อจู่เสี้ยน ต้องเอาน้องชายอายุสองขวบแบกใส่หลังเดินข้ามภูเขา 3 ชั่วโมงมาเรียนทุกวัน เนื่องจากพ่อแม่ไม่อยู่ เลยต้องอยู่กับยายที่ทำไร่และเลี้ยงม้า ขากลับก็แบกน้องใส่หลังกลับบ้านไปช่วยยายทำงานเหมือนเดิม เพราะทำแบบนี้มาตั้งแต่น้องยังเล็ก น้องชายจึงติดพี่สาวมากๆ

ความฝันของเธอคือ “อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีได้” (考上好大学) (kǎo shàng hǎo dà xué) (เข่า ซ่าง ห่าว ต้า สวีเอี๋ย)

考 [kǎo] (เข่า) = สอบ ตรวจสอบ
大学 [dà xué] (ต้า เสวีย) = มหาวิทยาลัย




เมื่อได้รับกล้องมา แล้วถูกถามว่าอยากถ่ายรูปอะไร เธอตอบโดยไม่ลังเล “ถ่ายรูปน้องชายค่ะ” และนี่คือรูปจากฝีมือของเธอ




เด็กชายหลิงทงอายุ 9 ขวบ ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้จับกล้องถ่ายรูปเป็นครั้งแรก เต็มใจที่จะเรียนและร่วมกิจกรรมกับอาสาสมัครทุกๆ อย่าง

ความฝันของเขาคือ “โตขึ้นอยากเป็นครู” (当老师) (dāng lǎo shī) (ตัง เหล่า ซือ)

当 [dāng] (ตัง) = เป็น
老师 [lǎo shī] (เหล่าซือ) = ครู


รูปจากฝีมือของเด็กชายที่ถ่ายภาพครูที่กำลังสอนหนังสือ





เด็กหญิงคนต่อมาชื่อลี่หลาง อายุ 8 ขวบ อยู่ป.3 ค่อนข้างเงียบ ยิ้มน้อย พ่อของเธอถูกจับติดคุกตลอดชีวิตตอนเธออายุได้ 2 เดือนด้วยข้อหาขโมย แม่แต่งงานใหม่ ลี่หลางอยุ่กับยายที่ปลูกมันฝรั่งและอยู่ได้ด้วยเงินยังชีพจากรัฐ มีอยู่ครั้งหนึ่งบ้านยายถล่มลงมา ลี่หลางเลยต้องไปอยู่กับป้า

พอถามเธอถึงความฝันเธอบอก “ไม่เคยแม้จะคิดถึง” (从未想过) (cóng weì xiǎng guò) (ฉง เว่ย เสี่ยง กั้ว)

从未[cóng weì] (ฉงเว่ย) = ไม่เคย


ภาพที่ลี่หลางถ่ายสวนทางกับความเศร้าของเธอ เธอถ่ายภาพที่เพื่อนๆ กำลังสนอกสนใจครูอาสาสมัครที่กำลังสอนหนังสือ



เด็กชายเฉี่ยวฟุอายุ 10 ขวบ อยู่ ป.3 แม่ของเขาทำงานเป็นแรงงานในเมือง ส่วนพ่อไม่มีงานทำอยู่บ้าน ความฝันของเฉี่ยวฟุคือ “ได้ถ่ายภาพสวยๆ เยอะๆ “(拍好多照片) (pāi hǎo duō zhào piàn) (ไพ ห่าว ตัว เจ้า เพี่ยน)

拍 [pāi] (ไพ) = ถ่ายรูป


เฉี่ยวฟุถ่ายภาพตัวเองกับเพื่อนเมื่อได้กล้องมา



เด็กชายฟู่หยวนอายุ 8 ขวบ อยู่ป.3 พ่อแม่ทำงานนอกหมู่บ้าน ที่บ้านมีเพียงพี่สาว 2 คนและตัวเขาอยู่กันเอง

ความฝันของเขาคือ “เป็นนักวาดภาพ” (做一个画家) (zuò yī gè huà jiā) (จั้ว อี เก้อ ฮว่า จีอา)

做[zuò] (จั้ว) = เป็น
画家[huà jiā] (ฮว่า จีอา) = นักวาดภาพ


ฟู่หยวนเลือกถ่ายภาพครูอาสาสมัครที่เขาสนิทด้วย ภาพนี้ถ่ายหน้าห้องเรียนของเขา




เด็กชายเสี่ยงฟู่ อายุ 10 ขวบอยู่ป.3 โตขึ้นอยากเป็น “ครูพละศึกษา” (当体育老师) (dāng tǐ yù lǎo shī) (ตัง ถี่ ยู่ว์ เหล่า ซือ)

体育 [tǐ yù] (ถี่ ยู่ว์) = พละศึกษา


เขาถ่ายภาพเพื่อนๆ นักเรียนในห้องที่เรียนด้วยกัน ซึ่งเขาบอกว่ามีความสุขมาก




เด็กหญิงฟู่หม่าน อายุ 10 ขวบ อยู่ป.4 มีความสนใจในสมุนไพรต่างๆ เพราะว่าปู่เป็นหมอยาประจำหมู่บ้าน ความฝันของเธอคือ “เป็นหมอ” `(当医生) (dāng yī shēng) (ตัง อี เซิง)

医生[yī sheng](อีเซิง) = หมอ


ฟู่หม่านเลือกถ่ายภาพธงบนยอดเสาของโรงเรียน





เด็กหญิงเติงจี๋ อายุ 13 ปีอยู่ ป.4 ฐานะทางบ้านดีกว่าใครทำให้เธอได้มีโอกาสเรียนหนังสือและอ่านหนังสือได้มากกว่าใคร ความฝันของเธอคือ “อยากเป็นนักผจญภัย” (当冒险家) [dāng màoxiǎnjiā] (ตัง เม่า เสี่ยน จีอา)

冒险家 [màoxiǎnjiā] (เม่า เสี่ยน จีอา) = นักผจญภัย


เติงจี๋ถ่ายภาพเพื่อนร่วมชั้นกับฉากหลังภูเขาของหมู่บ้าน



จบแล้วค่ะ คราวหน้าหากมีเรื่องน่าสนใจเราจะได้พบกันอีกแน่ค่ะ
https://www.facebook.com/simplychinese

No comments:

Post a Comment