Thursday, February 4, 2016

เดี๋ยวนี้สุ่ยหลินมีเว็บไซต์ เรียนจีน ให้ได้จีน ของตัวเองแว้วน้าาา^^

สุ่ยหลินก็ได้ฤกษ์มีเว็บไซต์ เรียนจีน ให้ได้จีน ของตัวเองแล้วค่าา ต้อนรับ AEC และปี 59 (เกี่ยวกันไหม?) 


การมีเว็บไซต์ เรียนจีน ให้ได้จีน ของตัวเองเนี่ยตอนแรกสุ่ยหลินก็คิดว่าไม่สำคัญ ฝากกะ blog ฟรีก็ได้ ประหยัดจังตังค์อยู่ครบ แต่จริงๆ แล้วเว็บไซต์มีข้อดีกับสุ่ยหลินและคุณผู้อ่านเยอะแยะมากมายเลยค่ะ

อาทิเช่น ใส่ข้อมูลได้ไม่จำกัดได้ รูปก็ไม่จำกัด คุณผู้อ่านหาอ่านย้อนหลังได้ง่ายๆ สามารถติด Tag แยกหมวดหมู่ (แถบดำๆ ใต้ชื่อเรื่อง) เพื่อหาบทความประเภทเดียวกันที่คุณผู้อ่านสนใจก็ได้ แชร์ได้ทันทีจากเว็บไซต์ไป facebook, twitter, google plus และโซเชี่ยลอื่นได้ ไม่ต้องกลับไปกลับมาที่หน้าต่างเดิม อับดุลก็ได้ เห้ยย..ไม่ได้ค่าา เชิญทัศนาได้ที่ link นี้ค่า 
เรียนจีน ให้ได้จีน

http://chinesexpert.com/


โฆษณามาแยะขนาดนี้แว้ว ก็อย่าแวะไปเว็บไซต์ของสุ่ยหลินนะคะ^^ 

ฝากติดตามสุ่ยหลินเหมือนเคย ไม่ว่า platform ไหนก็รักคนอ่านเหมือนเดิม ฮิ้วววๆๆๆ

Wednesday, January 20, 2016

รวมฮิต 8 จู๋ (族) คุณเป็นจู๋แบบไหน? (俚语)

อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งคิดลึกกันนะคะ อิ อิ (ชั้นไม่ได้คิดไรเล้ย มีแต่เธอที่คิด—-คุณผู้อ่านกล่าวไว้ TT) เพราะว่าวันนี้สุ่ยหลินจะมาคุยเรื่องคำๆนึงที่ภาษาจีนใช้กันบ่อยๆ และไม่มีเนื้อหาอะไรเล้ยที่เกี่ยวข้องกับ 18+ (ใครอยากรู้ศัพท์จีนนอกตำรา 18+ ที่ไม่มีที่ไหนสอน สุ่ยหลินแนะนำเลยเพจจี๊นจีน แอดมินฉายาในวงการ 华哥  ติดตามเฮียได้ครัชช แล้วจะพบว่าเห้ยยย…ใครกล้าสอนฟ่ระ!! เย้ยย..เปิดโลกทัศน์เรามากทีเดียว อิ อิ)


กลับมาๆๆ เรียนกันต่อ อย่าเพิ่งจิตใจเตลิดเปิดเปิงนะจ๊ะ คำที่สุ่ยหลินพูดถึงคือตัวนี้ค่ะ 族 [zú] แปลได้ว่า เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ และก็รวมไปถึง กลุ่มสังคมต่างๆ ด้วย ซึ่งคำว่า 族 นี่แหละค่ะ ถูกเอามาใช้ในการสร้างคำใหม่ที่เป็นสแลงจีนอีกเพรียบเลย คนจีนชอบใช้กันมาก วิธีการใช้ก็ง่ายโพดๆ แค่เอามาต่อท้ายคำอื่นๆ ก็กลายเป็นสแลงยอดฮิตแระ ง่ายม่ะ
มาติดตามสแลงยอดฮิตของคนจีนที่เกี่ยวกับคำว่า 族 ได้ในโพสนี้คร้าบบบ สุ่ยหลินให้เรทเองโพสนี้ 1+ (แปลว่าน้องน้อย 1 ขวบก็อ่านได้จ้า ถ้าอ่านออกนะ แหม่)


族 คำแรกที่อยากแนะนำ คือ 低头族 [dītóuzú]  

คำนี้สุ่ยหลินว่าพวกเราบางคนน่าจะเคยเห็นกันมามั่งแล้ว แปลตรงตัวคือ “เผ่าพันธุ์ก้มหัว” หรือ “สังคมก้มหน้า” ก็ได้ เพราะคำว่า 低头 [dītóu] หมายถึงก้มหัว คำนี้จึงมีไว้ใช้เรียกพวกติด smartphone โซเชียลทั้งวัน ก้มมองแต่มือถือ ขนาดกินข้าวโต๊ะเดียวกันก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเล่นแต่มือถือ ไม่คุยกันซักคำประมาณนี้
สุ่ยหลินไปอ่านเจอว่าฝรั่งก็เป็นเหมือนกัน ถึงขั้นว่าต้องมีคนให้บริการ (จ่ายตังค์) จูงเดินบนถนน เพราะจะได้ก้มหน้าก้มตามองจอได้อย่างเต็มที่ ไม่โดนรถชนไปซะก่อน  – -‘
และถ้าหากเพื่อนหรือคุณแฟนของเรา เป็นหนึ่งใน 低头族 คือไม่สนใจเราซะเรย ให้บอกไปเลยค่ะว่า 不要只看手机![bú yào zhǐ kàn shǒu jī!] = อย่าเอาแต่ดูโทรศัพท์เซ่! (ดูเรามั่งดิ วันนี้ใส่เสื้อใหม่เห็นมั๊ย สวยไหมล่าเพราะจิ๊กเงินเธอมาซื้อ!)
ผลที่ได้ก็คือเค้าอาจจะเลิกดูโทรศัพท์แป๊บนึง เผลออีกทีก็เห็นดูต่ออีกล่ะ ฮ่วย!


คำที่ 2 คือคำว่า 拇指族 [mǔzhǐzú]

คำนี้ไว้ใช้พูดถึงพวกที่ติด chat หรือติดเล่นเกมบนมือถือ ติดมากๆ ติดอย่างงอมแงม ต้องพิมพ์หรือกดอะไรสักอย่างตลอดเวลา และใช้นิ้วโป้งเป็นหลักในการพิมพ์หรือเล่นด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อฉายานี้ค่า เพราะ 拇指  [mǔzhǐ] ก็คือ นิ้วโป้งนั่นเอง จึงแปลตรงตัวของศัพท์คำนี้ได้ว่า “พันธุ์นิ้วโป้ง (มหากาฬ)” อุ อุ (คนเหล็กมหากาฬถอยไป)
คนคิดคำนี้ขึ้นมาก็คงเอามาจากการพิมพ์ chat หรือเล่นเกมส์บนมือถือที่ใช้นิ้วโป้งเป็นหลัก แต่ระวังน้าาอย่าเล่นมากไป เดี๋ยวนิ้วล็อกแล้วต้องไปผ่าตัดนะคะ^^
สังเกต 拇指 ตัว 拇 มาจากส่วนประกอบของสองตัวได้แก่ 母 [mǔ] แปลว่าแม่หรือต้นกำเนิดก็ได้ สังเกตว่าคำนี้เอาเสียงของตัว 母 มาใช้และเอาความหมายมาด้วย เพราะนิ้วโป้งคือนิ้วหลัก นิ้วสำคัญ ถือว่าเป็นนิ้วที่เป็นต้นกำเนิดได้ ส่วน 扌เป็นส่วนประกอบของคำที่เกี่ยวข้องกับ “มือ” ดังนั้น 拇 จึงแปลว่า “นิ้วโป้ง” แบบนี้แลค่าา


คำที่ 3 คือคำว่า 丁克族 [dīngkèzú]

丁克族 มีความหมายถึงครอบครัวหนุ่มสาวที่ไม่มีลูก โดย 丁克 เป็นคำเลียนเสียงภาษาอังกฤษมาจากคำว่า DINK ย่อมาจาก “Dual Income, No Kids”
มีความหมายเพิ่มเติมก็คือหมายถึงคู่สามี ภรรยา ที่ทำงานทั้งคู่ ฐานะการเงินดีแต่ไม่มีลูก คนเหล่านี้เลยมีเงินเหลือ ไปท่องเทียวต่างประเทศ ไปกินอาหารดีๆ เลี้ยงหมาแมวแทนมีลูก เป็นเทรนด์ยอดฮิตอีกเทรนด์นึงของคนจีนในยุคปัจจุบันค่ะ ที่สังคมแข่งขันกดดันกันจัด ไม่มีลูกซะเลยสบายตัวกว่า สุ่ยหลินว่าเมืองไทยก็เป็นเหมือนกันนะแบบนี้


คำที่ 4 คือคำว่า 啃老族 [kěnlǎozú]  

啃老族 เป็นคำด่าเสียดสีค่า มีความหมายถึงพวกเกาะพ่อเกาะแม่กิน โดยมีที่มาของความหมายแบบนี้ค่ะ 啃 [kěn] แปลว่า แทะ ส่วน 老(人)  [lǎo] แปลว่า คนแก่
啃老族 หากแปลตรงๆ ก็แปลว่าพวกแทะคนแก่ เอาแบบความหมายที่เราเข้าใจง่ายๆก็คือ… พวกเกาะพ่อเกาะแม่กิน (เจ็บนะคำนี้เนี่ย TT)
ขยายความเพิ่มเติมก็จะหมายถึงคนหนุ่มสาว เรียนจบแล้ว ก็น่าจะหางานทำ เอาเงินมาช่วยพ่อแม่ แต่ดันกลับอยู่บ้านว่างๆ ทำเป็นเด็กไม่รู้จักโต ต้องให้อุ้มให้ช่วยเหลือ ใช้เงินพ่อแม่ไปวันๆ แถมยังมีไลฟ์สไตล์สุดไฮโซใช้เงินเปลืองเป็นว่าเล่นอีกตังหาก
สุ่ยหลินเคยเขียนโพสคำนี้ไว้แล้ว อ่านเพิ่มเติมคลิกที่นี่ครัช เรื่องกินที่ไม่ได้กิน เอ๊ะ! ยังไง?? (俚语)


คำที่ 5 คือคำว่า 月光族 [yuèguāngzú]

月光族 แปลตรงตัวว่า “เผ่าแสงจันทร์” ไม่ได้เป็นญาติกะเซลเลอร์มูนนะคะ –‘ แต่คำนี้มาจากคำว่า 月 = เดือน ในที่นี้แทนความหมายถึงเงินเดือน ส่วน 光 นอกจากจะแปลว่าแสงแล้วในที่นี้ยังแปลว่า ใช้หมด ไม่มีเหลือ ค่ะ
月光族 จึงแปลว่าพวกมือเติบ ใช้เงินเดือนไม่เหลือเลย เรียกว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เงินเดือนชนเดือนประมาณนั้น


คำที่ 5 คือคำว่า 月光族 [yuèguāngzú]

月光族 แปลตรงตัวว่า “เผ่าแสงจันทร์” ไม่ได้เป็นญาติกะเซลเลอร์มูนนะคะ –‘ แต่คำนี้มาจากคำว่า 月 = เดือน ในที่นี้แทนความหมายถึงเงินเดือน ส่วน 光 นอกจากจะแปลว่าแสงแล้วในที่นี้ยังแปลว่า ใช้หมด ไม่มีเหลือ ค่ะ
月光族 จึงแปลว่าพวกมือเติบ ใช้เงินเดือนไม่เหลือเลย เรียกว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เงินเดือนชนเดือนประมาณนั้น


คำที่ 7 背包族 [bēibāozú] 
คำนี้ง่ายมากๆ เลยเพราะ 背包 = เป้ นั่นเอง 背包族 = เผ่าพันธุ์แบกเป้ จึงหมายถึงพวกเหล่าแบ็คแพ็กเกอร์ทั้งหลาย ชอบแบกเป้ไปเที่ยวกันเอง ไปในสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครไป และไม่ง้อทัวร์ค่ะ



คำที่ 8 上班族 [shàngbānzú]  

ส่งท้ายกับคำสุดท้าย  上班族  นะคะ คำนี้แปลตรงตัวได้ง่ายๆ มากเลยนะ 上班 = ไปเข้างาน 上班族 = พันธุ์ไปเข้างาน นั่นก็หมายถึง มนุษย์เงินเดือนนั่นเองค่ะ

แล้วคุณผู้อ่านของสุ่ยหลินล่ะคะเป็น 族 เป็นไงกันมั่งคะ ถ้าจะเป็น 低头族 [dītóuzú]  ก็ขอให้ 低头 กับโพสของสุ่ยหลินก่อนนะคะ^^ แล้วค่อยไป 低头 กะเรื่องอื่นเนาะ อิ อิ
***************
คอร์สสอนสดครั้งสุดท้ายของสุ่ยหลิน กับคอร์ส HSK 3 !!!
สุ่ยหลินจัดคอร์ส HSK ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนพย.ปี 2558 ค่ะ  ได้รับผลตอบรับจากแฟนๆ ผู้สนใจอย่างดีมากๆ เลย สุ่ยหลินต้องขอขอบคุณอย่างสูงไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ^^
คราวนี้สุ่ยหลินตั้งใจจะทำคอร์สสอนสดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วค่าสำหรับ  HSK3  หลังจากนี้ถ้าสนใจคอร์สสามารถเข้าไปซื้อคอร์สออนไลน์ได้ที่ https://taladpanya.com/ (ตอนนี้ยังม่ะมีนะ อิ อิ) เพราะว่าสุ่ยหลินจะได้มีเวลาไปทำโพสได้สม่ำเสมอกว่านี้ ไปเขียนหนังสือเล่ม Survivor China ที่ค้างเติ่งมาแรมปีให้เสร็จ และอื่นๆ อีกเยอะมากค่ะ งานท่วมหัวหู (แต่ไม่ยักผอม แหะๆ)
คอร์สจะมีวันที่ 6 กพ. เวลา 10.00-17.00 น.ที่ Be Bright Academy BTS พญาไทคับบ (แผนที่ คลิก http://www.bebrightacademy.com/index.php/contact-us)
ค่าคอร์สคนละ 1,000 บาท รวมอาหารกลางวันและเบรคแล้วค่าาา สุ่ยหลินแอบกระซิบนิดนุงว่า 10 คนแรกที่จ่ายแพคคู่ ค่าคอร์สสำหรับสองคน 1,500 บาทน้าา
รายละเอียดคลิก http://goo.gl/ju4oNa
สอบถามเพิ่มเติม Inbox Fanpage เรียนจีนให้ได้จีน หรือ Add Line ID: @xulin “สุ่ยหลิน เรียนจีน”
มาเจอกันให้ได้นะคะ
สุ่ยหลิน^^

Tuesday, January 12, 2016

ซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือน ตอน 帮助 VS 帮忙 ต่างกันยังไง?? (HSK3)

สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพจสุ่ยหลินทุกคน^^ กลับมาอีกครั้งกับซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือนนะคะ 
ตอน 帮助 [bāngzhù] กะ 帮忙 [bāngmáng] 
สองคำที่ชวนงงซะเหลือเกิ๊นว่าตกลงว่าแปลเหมือนกัน? แปลต่างกัน? ใช้เหมือนกัน?? ใช้ต่างกัน?

ถ้าพวกเราไปเปิดดิกกันดู เราจะพบว่าทั้ง 帮助 และ 帮忙 ต่างก็แปลว่า "ช่วย" เหมือนกันเลยนะ  แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าตอนไหนใช้ยังไงล่ะ 

แถมเรื่อง 帮助 และ 帮忙 เนี้ยยังเป็นส่วนหนึ่งของข้อสอบ HSK3 ที่ชอบออกบ่อย ๆ ด้วยนะจ๊ะ ติดตามโพสดีมีประโยชน์เยอะกับสุ่ยหลินได้เลยครัช^^

จริงๆ แล้วทั้ง 帮助 และ 帮忙 จริงๆ ก็แปลว่า "ช่วย" เหมือนกันเลยค่าา แต่มีความแตกต่างในคำแปลเล็กน้อย ตรงที่ 帮忙 ในเมื่อ 忙 แปลว่า "ยุ่งยาก" 帮忙 จึงหมายถึงช่วยบรรเทาความยุ่งยาก ช่วยเมื่อคนอื่นที่กำลังประสบความยากลำบาก ในขณะที่ 帮助 จะเน้นไปที่ช่วยออกแรง ออกความคิดเห็น เป็นที่พึงทางใจก็ได้ ทางวัตถุก็ได้

ในเมื่อสองคำนี้ความหมายใกล้กันซะขนาด สุ่ยหลินจึงอยากแนะนำว่าให้ดูวิธีการใช้จะดีกว่าเพราะจะชัดเจนกว่ามั่กๆ





เริ่มจาก 帮忙

帮忙 ถือว่าเป็น 离合词 คำหนึ่ง ใครยังไม่รู้จัก 离合词 รีบมาป๊ะกะเค้าได้ที่ลิงค์นี้ค่า (มารู้จักกับ 离合词 [líhécí] กานนน!! (รักกันอยู่ด้วยกันก็ได้ แยกกันกลับมารักอีกก็ยังด้าาายย) http://chinesexpert.blogspot.com/2015/11/liheci.html)

ในเมื่อเป็น 离合词   คำว่า帮忙 จึงสามารถแยกร่างได้ค่า ดูวิธีการใช้น้า เช่น

我曾经过她的
Wǒ céngjīng bāngguò tā de máng.
ชั้นเคยช่วยเธอมาก่อน (นะจะบอกให้)

อีกสักอัน

不了你的
Wǒ bāng bùliǎo nǐ de máng.
ชั้นช่วยคุณไม่ไหวหรอก (เช่น ห้ามขอยืมตังค์เด็ด)

จะเห็นว่า 帮忙 มีกรรมตามหลังไม่ได้ตามหลัก 离合词 เพ๊ะๆ นอกจากนี้ 帮忙 ยังใช้แบบเบิ้ลคำหรือเติมสร้อยคำได้อีกด้วยล่ะ เช่น

我来帮帮忙。
Wǒ lái bāng bāngmáng.
มาๆ ชั้นช่วยเอง

หรือ
请你帮帮我的好吗?
Qǐng nǐ bāng bāng wǒ de máng hǎo ma?
โปรดช่วยชั้นหน่อยได้ป่าวว

และเพราะ 帮忙 เป็น 离合词 จึงนิยมพ่วงไปกะคำอื่นๆ พวกนี้ด้วยค่า 给...帮忙 หรือ 为...帮忙
เช่น

我们班有没有朋友可以帮忙?
Wǒmen bān yǒu méiyǒu péngyǒu kěyǐ gěi nǐ bāngmáng?
ห้องเราเนี่ย มีเพื่อนคนไหนช่วยเธอได้มั่งมั๊ย 

มาดู 帮助 มั่งนะคะ

帮助 เป็นคำกริยาธรรมดามีกรรมมาต่อท้ายได้อย่างทั่วๆ ไป หรือไม่มีก็ได้ไม่ว่ากัน เช่น

帮助我学习中文。
Tā bāngzhù wǒ xuéxí zhōngwén.
เค้าช่วยสอนภาษาจีนให้ชั้น (ขอบคุณมากๆ อั๊บ)

工作中互相帮助
Gōngzuò zhōng hùxiāng bāngzhù.
การทำงานก็ควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันนะจ๊ะ


งั้นตามธรรมเนียมสุ่ยหลิน ต้องมาออกแรงสมองกันจิ๊ดนึงหลังอ่านโพสจบ 2 ข้อนี้ข้อไหนตอบ 帮助 และข้อไหนตอบ 帮忙 คะ?

1. 每个新年他总要____老人一些钱。


2. 他__了我几次__ 。

ง่ายฝุดๆ เลยชิมิคะ เห็นป่าวภาษาจีนไม่ยากเท่าไหร่ เรียนไปด้วยกันกับสุ่ยหลินนะคะ^^

เฉลยน้า ถูกกันหมดใช่ป่าวคะ^^

1. 帮助
2. 帮 -- 忙 



----------------------


คอร์สสอนสดครั้งสุดท้ายของสุ่ยหลิน กับคอร์ส HSK 3 !!! 


 

ภาพบรรยากาศครั้งที่แล้วค่ะ^^

สุ่ยหลินจัดคอร์ส HSK ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนพย.ปี 2558 ค่ะ  ได้รับผลตอบรับจากแฟนๆ ผู้สนใจอย่างดีมากๆ เลย สุ่ยหลินต้องขอขอบคุณอย่างสูงไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ^^


คราวนี้สุ่ยหลินตั้งใจจะทำคอร์สสอนสดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วค่าสำหรับ  HSK3  หลังจากนี้ถ้าสนใจคอร์สสามารถเข้าไปซื้อคอร์สออนไลน์ได้ที่ https://taladpanya.com/ (ตอนนี้ยังม่ะมีนะ อิ อิ) เพราะว่าสุ่ยหลินจะได้มีเวลาไปทำโพสได้สม่ำเสมอกว่านี้ ไปเขียนหนังสือเล่ม Survivor China ที่ค้างเติ่งมาแรมปีให้เสร็จ และอื่นๆ อีกเยอะมากค่ะ งานท่วมหัวหู (แต่ไม่ยักผอม แหะๆ) 


คอร์สจะมีวันที่ 6 กพ. เวลา 10.00-17.00 น.ที่ Be Bright Academy BTS พญาไทคับบ (แผนที่ คลิก http://www.bebrightacademy.com/index.php/contact-us

ค่าคอร์สคนละ 1,000 บาท รวมอาหารกลางวันและเบรคแล้วค่าาา สุ่ยหลินแอบกระซิบนิดนุงว่า 10 คนแรกที่จ่ายแพคคู่ ค่าคอร์สสำหรับสองคน 1,500 บาทน้าา

รายละเอียดคลิก http://goo.gl/ju4oNa

สอบถามเพิ่มเติม Inbox Fanpage เรียนจีนให้ได้จีน หรือ Add Line ID: @xulin "สุ่ยหลิน เรียนจีน" 


มาเจอกันให้ได้นะคะ
สุ่ยหลิน^^










ซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือน ตอน 二 กับ 两 ต่างกันยังไงนะ?

สวัสดีค่าาคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านนะคะ^^ สุ่ยหลินกลับมาพร้อมกับซีรีย์ชุดคำเหมื๊อนเหมือนอีกแล้วค่า คราวนี้มาเจอกับคำที่ชวนง๊งงง ในตอน 二 [èr] กับ 两 [liǎng]

ตอนที่เราเริ่มเรียนใหม่ๆ สุ่ยหลินว่าน่าจะผ่านการงงกับสองตัวนี้มาก่อนแล้ว และหากใครยังงงอยู่จนถึงบัดนาว วันนี้สุ่ยหลินมีกุญแจดอกสำคัญที่จะพาออกจากเขาวงกตของ 二 และ 两 นะ
ในเมื่อทั้งสองคำนี้แปลว่า “สอง” เหมือนกัน ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องน่างงอะไรเลยถ้าใช้แทนกันได้ทุกกรณี แต่มันมิเป็นเช่นนั้นสิคะ บางครั้งใช้ 二 บางครั้งใช้ 两 บางครั้งใช้แทนกันได้ บางครั้งไม่ได้เด็ดๆ และเพราะอย่างงี้นี่เอง เลยทำให้เราหยิบเรื่องนี้มาคุยกันในวันนี้จ๊ะ
ติดตามเฉลยปัญหาชวนงงระหว่าง  二 กับ 两 ได้ในโพสนี้ค่ะ^^

เริ่มต้นที่ 二 กันก่อนเลย

   1.二 ใช้เมื่อเป็นตัวเลขและหมายเลข เช่น

十二 [shí’èr] = 12 (เลข 12 หรือหมายเลข 12)
二十 [èrshí] = 20 (เลข 20 หรือหมายเลข 20)
หรือในตอนเรียนเลขเราก็ใช้นะ เช่น
四减二得二。[Sì jiǎn èr dé èr.]
สี่ลบสองได้สอง (4-2 =2)

   2.二 ใช้เมื่อบอกลำดับที่

第二 [dì’èr] = (ลำดับ) ที่สอง
(第) 二楼 [(dì) èr lóu] = ตึก (หมายเลข) สอง


มาต่อกันด้วย 两

  1. 两 ใช้เป็นจำนวนนับ หรือบอกปริมาณ

วิธีใช้ จะใช้แทนความหมายของคำว่า “สอง” ในจำนวนนับ โดยวางไว้หน้าคำลักษณนาม ตัวอย่างมา…
两个人 [liǎng gè rén] = คนสองคน
两本书 [liǎng běn shū] = หนังสือสองเล่ม
แต่หากว่าไม่ใช่ “2” ที่เป็นจำนวนนับหลักหน่วยแล้ว อย่างเช่น กลายเป็น “12” แทนล่ะ ทำไงดี? เช่น “คน 12 คน”
ติ๊กต๊อกกๆๆ…
ในกรณีนี้ เราใช้ 二 แทนค่ะ กลายเป็น 十二个人 ดังนี้แล (ไม่มี 十两个人 น้าา)

  2. กรณีที่ 两 ก็ใช้เป็นตัวเลขได้เหมือนกับ 二 นะ

มีกรณีที่ทั้ง 二 และ 两 สามารถใช้บอกตัวเลขได้เหมือนๆ กันค่ะ โดยที่ 二 ใช้ได้ในทุกกรณี แต่ 两 มีข้อกำหนดและความนิยมในการใช้อยู่ นั่นคือ เรานิยมใช้ 两 กับเลข 2 ที่อยู่ในเลขหลักร้อย (百) , พัน(千) , หมื่น(万) และหลักร้อยล้าน (亿) ค่ะ
เช่น
两百  [liǎng bǎi]    = 200 จะพูดว่า 二百 ก็ได้
两千 [liǎng qiān]   = 2,000 จะพูดว่า 二千 ก็ได้
两万 [liǎng wàn]   = 20,000 จะพูดว่า 二万 ก็ได้
แต่จะไม่พูดว่า 两十= 20  เด็ดขาดเลยนะคะ ใช้ว่า 二十 แทนจ้า

  3. ใช้ 两 เมื่อต้องการบอกจำนวนโดยประมาณ

ภาษาจีนมีการบอกจำนวนแบบกะๆ เอาเหมือนของไทยเลยค่ะ วิธีการก็คือพูดตัวเลขที่กะๆ เอาต่อกัน เช่น แปดเก้าตัว ห้าหกชิ้น ที่นี้พอมาเป็นเลข “สอง” แบบกะๆ เอา อย่างเช่น วันสองวัน สองสามคน ซึ่ง”สอง” ในที่นี้เราจะใช้ 两 นะคะ ม่ะใช้ 二
เช่น
一两天 [yī liǎng tiān] = วันสองวัน
两三个人 [liǎng sān gè rén] = สองสามคน

ชัดเจนขึ้นไหมเอ่ย ห้ามตอบว่ายิ่งกว่าไส้เดือนในเขาวงกตน้าา สุ่ยหลินจะเสียใจมั่กๆๆ และแล้วก่อนจาก ก็ตามธรรมเนียมนะคะ ไม่บอกว่าอะไร แต่จัดให้โดยไม่ไถ่ถาม!!
  • 22,222 เลขนี้อ่านว่าอะไร ?
  • เติมคำให้หน่อยค่าาา
    我有__十个苹果。 ชั้นมีแอปเปิ้ล 20 ลูก
    我有__本书。 ชั้นมีหนังสือ 2 เล่ม
  • 250 อ่านยังไงดี คนอ่านถึงจะเต็มบาท (ข้อนี้ให้ถามอากู๋ได้)
ตอบมาเยอะๆนะค้าาา เดวเค้ามาเฉลยจ้าา
สุ่ยหลิน^^

******************

คอร์สสอนสดครั้งสุดท้ายของสุ่ยหลิน กับคอร์ส HSK 3 !!!

สุ่ยหลินจัดคอร์ส HSK ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนพย.ปี 2558 ค่ะ  ได้รับผลตอบรับจากแฟนๆ ผู้สนใจอย่างดีมากๆ เลย สุ่ยหลินต้องขอขอบคุณอย่างสูงไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ^^
คราวนี้สุ่ยหลินตั้งใจจะทำคอร์สสอนสดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วค่าสำหรับ  HSK3  หลังจากนี้ถ้าสนใจคอร์สสามารถเข้าไปซื้อคอร์สออนไลน์ได้ที่ https://taladpanya.com/ (ตอนนี้ยังม่ะมีนะ อิ อิ) เพราะว่าสุ่ยหลินจะได้มีเวลาไปทำโพสได้สม่ำเสมอกว่านี้ ไปเขียนหนังสือเล่ม Survivor China ที่ค้างเติ่งมาแรมปีให้เสร็จ และอื่นๆ อีกเยอะมากค่ะ งานท่วมหัวหู (แต่ไม่ยักผอม แหะๆ)
คอร์สจะมีวันที่ 6 กพ. เวลา 10.00-17.00 น.ที่ Be Bright Academy BTS พญาไทคับบ (แผนที่ คลิก http://www.bebrightacademy.com/index.php/contact-us)
ค่าคอร์สคนละ 1,000 บาท รวมอาหารกลางวันและเบรคแล้วค่าาา สุ่ยหลินแอบกระซิบนิดนุงว่า 10 คนแรกที่จ่ายแพคคู่ ค่าคอร์สสำหรับสองคน 1,500 บาทน้าา
รายละเอียดคลิก http://goo.gl/ju4oNa
สอบถามเพิ่มเติม Inbox Fanpage เรียนจีนให้ได้จีน หรือ Add Line ID: @xulin “สุ่ยหลิน เรียนจีน”
มาเจอกันให้ได้นะคะ
สุ่ยหลิน^^

Wednesday, January 6, 2016

อยากรู้จังผู้หญิงจีนสมัยก่อน เค้าแต่งหน้ากันยังไงนะ?? รูปหนักมาก

สุ่ยหลินกลับมาแว้วค่า กับตอน 2 ที่คุณผู้อ่านบอกว่าชอบ เย้ๆๆ ดีใจจุง ความนัยตอนเดิมเริ่มจากที่สุ่ยหลิน (แอบ) สงสัยว่าผู้หญิงจีนสมัยก่อนน่ะเค้าแต่งตัวกันยังไงนะ? โดยเฉพาะราชวงศ์ที่รุ่งเรืองที่สุดของจีนอย่างราชวงศ์ถัง เหมือนกะในหนังไหม๊น้า?

เลยเป็นที่มาของการหาข้อมูลและกลายเป็นโพสแรกค่า ใครยังไม่ได้อ่านต้องจัดที่นี่ค่าา (อยากรู้จังผู้หญิงจีนสมัยก่อน เค้าแต่งตัวกันยังไงนะ?? http://chinesexpert.blogspot.com/2015/12/blog-post_16.html)

อ่ะ...ที่นี่เรารู้แระว่าเค้าแต่งตัวกันยังไง งั้นมาติดตามโพสนี้ว่าเค้าแต่งหน้ากันยังไงน้า รับรองว่าจะตะลึง ตะลึงง ต่ะลึง ตึง ๆๆ (มุกเก่าน่าดู อ๊าย อาย)

ปอลิง ต้องออกตัว (แรง) ก่อนนะคะว่า โพสนี้ไว้อ่านเอาหนุกๆ รูปก็หาเอาจากอากู๋ ไม่สามารถอ้างอิงทางวิชาการได้นะคะ สุ่ยหลินก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกินซะมากกว่า อิ อิ

แพล่มนานเดวเบื่อ เริ่มกันเลยดีกว่า...

อย่างที่สุ่ยหลินเกริ่นมาก่อนหน้านี้ว่าราชวงศ์ถัง ถือว่าเป็นราชวงศ์ที่รุ่งเรืองที่สุดของจีนค่า กินเวลายาวนานเหมือนกันตั้งแต่ พ.ศ. 1161-1450 ถือว่าเกือบๆ 300 ปีเลยทีเดียวค่ะ แฟชั่น การกินอยู่ ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง เช่น ต้นราชวงศ์นิยมแต่งแบบนี้ ปลายราชวงศ์เป็นอีกอย่างแบบนี้ก็มี ดูแล้วก็ไม่ต่างกับสมัยปัจจุบันนะคะ ของเราไม่ต้อง 300 ปีหร้อก แค่ต้นปีกับปลายปีแฟชั่นยังคนละอย่างเลยเนอะ

เรื่องแต่งหน้าแต่งสวยก็เหมือนกัน มีการเปลี่ยนแปลงตามสมัยนิยมไปเรื่อยๆ สาวๆ (ชั้นสูง) ในสมัยนู้นเค้าก็มีกระบวนการแต่งหน้าไม่แพ้สาวในยุคปี 2000 เรยค่า โดยมีเสต็ปความสวยเริ่มเป็นขั้นแบบเนี้ย

Step 1  ทาแป้งที่หน้า เน้นว่าต้องเป็นแป้งสีขาว หน้าจะได้ขาวผ่องนะคะ^^

Step 2  ทาแก้มสีแดง เน้นว่าต้องแดงมากๆ ด้วย จะอมๆ ชมพูม่ะได้

Step 3 ทาสีเหลืองที่หน้าผาก ใช่แว้วค่าาอ่านไม่ผิดหรอก ทาสีเหลืองที่ "หน้าผาก" เพราะสมัยถังเป็นยุคที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองมาก หน้าผากสีเหลืองทองก็ไม่ต่างกับหน้าผากของพระพุทธรูปซึ่งถือเป็นของสูงค่ะ  สีเหลืองนี้ทำมาจากพืชและดอกไม้ เอามาผสมน้ำแล้วใช้แปรงปัดเอา

Step 4 ถึงทีของคิ้วบ้างล่ะ ถือว่าเป็นส่วนที่ยากและซับซ้อนส่วนนึงของหน้าเลยนะคะ ไม่เฉพาะสมัยถัง สมัยนี้ก็เหมือนกัน เขียนคิ้วผิดหน้าเหน้อเปลี่ยนกันเลยทีเดียว เรียกว่าเรื่องคิ้วนี่เป็นความลับของจักรวาลที่ผู้หญิงสมัยก่อนเค้ารู้มาตั้งนานแล้วเนอะ

ด้วยความราชวงศ์ถังกินเวลานาน รูปคิ้วยอดฮิตก็เปลี่ยนไปตามสมัยนิยมด้วย ต่างกันขะไหนขนาดก็ดูรูปประกอบได้เลยครัชช


ที่สุ่ยหลินไม่เข้าใจสุดๆ ก็คือหมายเลข 710, 742  (ซึ่งหมายถึงปีราชวงศ์ไล่มาตั้งแต่ต้นถึงปลายนะคะ) คือต้องการให้ชีวิตเศร้า?? นู๋ไม่เข้าจายย


Step 5 ทาปากสีแดง โดยต้องเขียนขอบปากด้วย มีแบบยอดฮิตนิยมแบบนี้ค่าา ถ้าใครเลือกปากสุดท้ายก็ต้องเอาแป้งขาวๆ ทาให้ปากที่เหลือเป็นสีขาวด้วยน้า จุ๊บุ จุ๊บุ มากมาย





Step 6 ใกล้เสดแล้วน้า เฮียๆ สมัยถังอดทนหน่อย เพราะผ่านมาอีก 2000 กว่าปีผู้ชายก็ยังคงต้องรอผู้หญิงแต่งหน้าเหมียนเดิมแหละ อิ อิ

สเต็ปนี้เค้าจะเติม "面靥" [miàn yè]  ซึ่งก็คือจุดสีแดงข้างริมฝีปาก อารมณ์ประมาณลักยิ้มอ่ะค่ะ เค้าว่าสาเหตุเดิมที่ต้องเติมจุดแบบนี้ เริ่มมาจากสนมนางในเป็นปจด. ไม่สามารถรับใช้ฮ่องเต้ได้แต่ขวยอายที่จะบอกตามตรง เลยเติมจุดไว้ข้างแก้มเป็นซิกแนล อารมณ์ว่าเห็นแล้วก็ไม่ต้องมาถามไม่ต้องมาหานะจ๊ะคืนนี้นะคะท่าน

พอเติมจุดแล้วก็เป็นแบบนี้ค่าา






Step 7 สุดท้ายแว้ว ถือว่าเป็นอ๊อปชั่น ทำได้ไม่ทำก็ได้ ก็คือการเติม "花钿" [huā diàn] หรือการเติมรูปดอกไม้กลางหน้าผากค่าา ปกติเป็นสีแดงแบบรูปนี้




หรือไม่บางทีก็เป็นรูปอื่นๆ ก็ได้ ใช้สีอื่นก็ได้แต่สีแดงรูปดอกไม้ก็ยังได้รับความนิยมสูงสุดอยู่ดี

สวยมากๆ ใช่ไหมค่าา แต่ยังค่า ยังเพราะนี่คือหนังสมัยใหม่ มาดูของจริงกันดีกว่า ว่าพอผู้หญิงสมัยถังเค้าแต่งครบสูตรแบบนี้จะเป็นยังไง

โอม..ภาพประกอบจงมาา....ชรึ๊งงง




ลองดูงานปั้นมั่ง เดวหาว่ามโน



ทีนี้ก็มีคนคิดว่าถ้าเราเอามาตรฐานความสวยของการแต่งหน้าสมัยถัง มาแต่งตามภาพโบราณเด๊ะๆ เลยจะเป็นยังไงน้าา
ข้างบนคือภาพจริงสมัยโบราณ ภาพล่างคือแต่งเลียนแบบ อย่าสับสนน้า!!





แหะๆ เป็นไงกันมั่งคะ ><'

ลองมาดูเวอร์ชั่นชัดจัดเต็ม แต่งหน้าแต่งตัวเลียนแบบสมัยก่อนให้ครบสูตรก็เป็นแบบนี้ค่าา




อีกสักรูปน้าา....




เค้ามีแบบว่า บริการแต่งหน้าทำผมเหมือนสมัยก่อน แล้วไปถ่ายในบรรยากาศโบราณๆ แบบนี้ด้วย

สมัยก่อนนางในฮ่องเต้คงประมาณนี้ล่ะมังคะ สุ่ยหลินว่า


มีชุดแบบสมัยนิยมตั้งแต่ต้นราชวงศ์ไล่ไปถึงปลายด้วยค่า แบบนี้

ไม่เข้าใจคุณพรี่ ที่ 2 จากขวาเจงๆ ง่า...หน้าแดงไปนะ ส่วนผมคุณพรี่คนที่ 1 จากซ้าย ผมเอาไว้เป็นอาวุธได้ยามฉุกเฉิน


มิน่าเนอะฝรั่งเค้าถึงว่า beauty is in the eye of the beholder แปลได้ว่า "ความสวยขึ้นกับสายตาคนมอง" ถ้าจะยึดประโยคนี้เป็นหลัก สุ่ยหลินก็ว่าสุ่ยหลินสวยสุดเพราะคนที่มองคือตัวเองคนเดียว ไม่มีใครมากล้ามายกป้ายคัดค้านน 哈哈哈

หวังว่าจะชอบกันทั่วหน้านะคะ เพื่อคุณผู้อ่านสุ่ยหลินจัดเต็มที่ค่าาาา
^^


******************
หนังสือ eBook ของสุ่ยหลินจะวางขายเดือนมกราคมแล้วนะค้าา ขายในรูปแบบไฟล์ โดยสามารถอ่านได้ใน smart phone ทู้กอย่างเลยค่า ไม่ว่าจะเป็น Iphone, IPad, Galaxy, Samsung ได้หมดเลย พกพาไปไหนก็สะดวก อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาค่ะ^^ ไม่หนักกระเป๋า




วันนี้มาดูสารบัญหมวดรู้จักจีน ความรู้ทั่วไป อาหาร คำเรียก คนจีน วัฒนธรรม  (หมวด 2) มีเรื่องอะไรให้อ่านกันมั่งนะ^^


  • จะเรียกว่าอะไรดี? เจอคนบนถนนจะเรียกเค้าว่าอะไรดีเป็นภาษาจีน? (ตอนเรียกคนแปลกหน้า) 
  • จะเรียกว่าอะไรดี? (ตอนเรียกคนในบ้าน)
  • จะเรียกว่าอะไรดี? (ตอนเรียกแฟน^^)
  • ทายนิสัยหน้าตาจากโหวงเฮ้งจีน
  • “บ้าน” “ร้านค้า” “ตึก” “ออฟฟิส” ที่อยู่อาศัยมีตั้งหลายอย่าง ภาษาจีนเรียกว่ายังไง?
  • วันนี้พามาเข้าร้านเสริมสวยกัน ฉบับถึงเรียนจีนแต่ไม่จำเป็นต้องเชยยยยนะจ๊ะ (美容店)
  • เดาเมนูจีน ฉบับไม่ต้องเก่งจีนก็สั่งได้เหมือนกันนะ!! (1) (2)
  • 5 เมนูยอดฮิตอาหารจีนที่คนไทยชอบสั่ง
  • ภาษาจีนก็มีชื่อเล่นนะ รู้หรือยัง?
  • #คนจีนชอบถุย ?!??
  • เค้าขอโต๊ดดด!
  • กินจนเบื่อ พูดยังไง? (吃腻)
  • 中国礼节:7 ข้อควรรู้ตอนไปกินโต๊ะจีน (เรื่องกินๆ ที่อย่ามองข้าม)
  • 6 เทคนิคชอปปิ้งเมืองจีน สกิลขั้นเทพ แม่ค้ายังอาย


คุณผู้อ่านอาจจะถามว่าเย้ยย!!.. แล้วมันจะต่างอะไรกะอ่าน Fanpage อ่าน Blog ล่ะจ๊ะเธอวว์??

สุ่ยหลินต้องขอตอบว่า....ต่างค้าบบบเพราะว่าตอนที่เขียน post ใน Fanpage และใน Blog นั้น บางทีเนื้อหาอาจไม่ครอบคลุมทุกประเด็นของคำๆ นั้น พอมาเป็นหนังสือสุ่ยหลินก็เขียนเพิ่มเติมให้ครบถ้วนมากขึ้นอีกค่าา 

ที่สำคัญทั้งหมดอ่านง่าย อ่านสนุก ไม่น่าเบื่อชัวร์ๆ ไฟล์หนังสือหนา 238 หน้า ราคาปก 220 บาทแต่ลดเหลือ 180 บาทเท่านั้น

วางขายที่ Online bookstore ต่างๆเช่น  Ookbee,Mebmarket,Narin (นายอินทร์), Se-ed (ซีเอ็ด) ในเวอร์ชั่น eBook ครัชชช 

ฝากติดตามสุ่ยหลินด้วยนะคะ^^




Sunday, January 3, 2016

ซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือน ตอนสองศรีพี่น้อง 不 [bù] และ 没 [méi] ต่างกันยังไง??

มาต่อกันที่ซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือนตอน 不 กับ 没 น้า 

ใครพลาดซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือนตอน 念 กับ 读 คลิกที่นี่ครัช
http://chinesexpert.blogspot.com/2015/12/blog-post_25.html 

คำถามเรื่องความแตกต่างของ 不 [bù] กะ 没 [méi] เนี้ยเป็นคำถามที่สุ่ยหลินได้รับมาจากทางบ้าน (พูดเหมือนรายการทีวีม่ะ!! อิ  อิ) จริงๆ ก็คือมีคุณผู้อ่านถามมาแหละค่าา สุ่ยหลินเลยขอเวลารวบรวมเนื้อหาหน่อยนึง จึงกลายเป็นโพสในวันนี้แล

เอาเข้าจริงๆนะ 不 กะ 没 เมื่อเปิดดิกต่างก็แปลว่า "ไม่" เหมือนกัน เอ้า...แล้วจะใช้ต่างกันยังไง? ตอนไหน? เมื่อไหร่? ยังไงล่ะ?

ติดตามได้ในโพสนี้ค่าา

ซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือน ตอนสองศรีพี่น้อง 不 (bù) และ 没 (méi) ต่างกันยังไง??  

สุ่ยหลินว่าถ้าเปรียบเทียบทั้งคู่เป็นพี่น้องสองสาว ก็ต้องบอกว่าพี่น้องคู่นี้ทำหน้าที่ได้คล้ายๆ กันเลยนะ (เพราะทั้งสองใช้ในประโยคปฏิเสธที่แปลว่า "ไม่" เหมือนๆกัน ) แต่ว่าทั้งสองสาวมีสเปกและความชอบกันคนและแบบ จะเอาใครมาแทนใครไม่ได้นะจ๊ะตัววว์ (ใช้แทนกันไม่ได้)



เริ่มจาก 不 กันก่อนเลย

1. 不 ใช้ในประโยคปฏิเสธที่เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน หรืออนาคต

พูดง่ายๆ ก็คือเหตุการณ์หรือกริยานั้นกำลังดำเนินอยู่หรือกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตค่ะ

เช่น โทรศัพท์บอกศรีภรรยาว่าเย็นนี้ไม่ต้องเตรียมกับข้าว(ถุง)ไว้ จะไปกินเลี้ยงกับลูกค้า ก็พูดได้ว่า

不回来吃晚饭。
 bù huílai chī wǎnfàn.
ผมไม่กลับไปกินข้าวเย็นนะ

หรืออีกตัวอย่างนึง
老板今天不来公司。
Lǎobǎn jīntiān bù lái gōngsī.
เจ้านายวันนี้ไม่เข้าบริษัท (เย้!) (ในรอบสิบปี ><')


2. 不 ใช้กับกริยาหรือการกระทำที่เป็นนิสัย เป็นการตัดสินใจหรือเป็นความตั้งใจ

งงไหม? มาดูตัวอย่างกันค่าา

我不吃早饭。
Wǒ bù chī zǎofàn.
ชั้นไม่กินข้าวเช้า (เป็นนิสัย กิจวัตรของเค้า)

我不吃牛肉。
Wǒ bù chī niúròu.
ชั้นไม่กินเนื้อวัว (เป็นความตั้งใจ หรือนิสัยประจำของเค้า)

他不来了。
Tā bù lái le.
มันไม่มาแล้วล่ะ (เป็นการตัดสินใจ - ตัดสินใจเบี้ยวนัดเพื่อน เพิ่งโทรมาบอก อุเหม่! อ่ะนะ คราวหน้าไม่เรียกแระ)

3. นอกจากนี้ 不 สามารถใช้กับประโยคที่อธิบายการเปลี่ยนแปลงของกริยาหรือเหตุการณ์ได้ (ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว) และมักจะพา 了 มาด้วยเพื่อบอกความเปลี่ยนแปลง (Change of state) ให้ชัดเจนขึ้นค่ะ 

เช่น

天不下雨了。
Tiān bú xiàyǔle. 
ฝนไม่ตกแล้ว (ก่อนหน้านี้ตก ตอนนี้หยุดแล้ว)


4. 不 นอกจากใช้วางหน้ากริยา ก็ยังใช้วางหน้าคุณศัพท์ได้ด้วย
โครงสร้าง 不 + Adj.

你不胖。
Nǐ bù pàng.
เธอไม่อ้วน

中文不难。
Zhōngwén bù nán.
ภาษาจีนไม่ยาก


5. สุดท้าย กริยาบางตัวใช้กับ 不 ได้อย่างเดียว

(ใช้กับ 没 ไม่ได้นะคะ) เรียกว่าเกิดมาเพื่อเธอเท่านั้นค่ะ อย่างเช่น 会,可以,是,像,能 และอื่นๆ โดยกริยาพวกนี้จะเกี่ยวข้องกับ ความเป็นไปได้, เจตนา หรือ กริยาที่ไม่แสดงการกระทำให้เห็น เช่น 知道 , 认识, 在 

เช่น 
昨天我不在家。
Zuótiān wǒ bù zài jiā.
เมื่อวานชั้นไม่อยู่บ้าน

他一年以前不会说汉语 。
Tā yīnián yǐqián bù huì shuō hànyǔ.
เมื่อปีก่อนเค้ายังพูดภาษาจีนไม่ได้ 

*สุ่ยหลินขอให้สังเกต 2 ประโยคนี้นิดนุงว่า โดยปกติ 不 จะใช้กับเหตุการณ์ในปัจจุบันหรืออนาคต แต่ว่า 2 ประโยคนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต แต่ก็ใช้ 不 ได้ เพราะกริยาเหล่านี้ใช้กับ 不 ได้เท่านั้นค่ะ  

ข้อนี้อาจจะจำยากสักหน่อยว่ามีกริยาตัวไหนบ้าง แต่พอใช้ไปๆ ก็จำได้อัตโนมัติไปเองน้า อย่าเพิ่งท้อ สู้ๆ

งงได้ที่กับพี่ 不 แล้ว ก็มาถึงคราวน้อง 没  บ้างนะ รับรองงงกว่าเดิม เย้ย..หายงงค่า

ลักษณะเด่นของการใช้ 

1.  ใช้ในประโยคปฏิเสธที่เป็นเหตุการณ์ในอดีต
อาจจะมาแบบย่อแค่ 没 หรือมาแบบครบเซตเป็น 没有 ก็ได้ค่ะ 
เช่น

昨天我没见到他。
Zuótiān wǒ méi jiàndào tā.
เมื่อวานชั้นไม่เจอเค้าเลย

我昨天没有喝酒。
Wǒ zuótiān méiyǒu hē jiǔ.
เมื่อวานชั้นไม่ได้ดื่มเหล้า


2. 没 ใช้บอกเหตุการณ์ที่เป็นข้อเท็จจริงในขณะนั้น ว่ายังไม่เกิดขึ้น

妈妈没有做晚饭。
Māma méiyǒu zuò wǎnfàn.
แม่ยังไม่ได้ทำข้าวเย็นเลย
หิวแล้วอ่าาาา....

老师今天早上没来上课。
Lǎoshī jīntiān zǎoshang méi lái shàngkè.
เช้านี้คุณครูยังไม่เข้าห้องเรียนเลย


3. 没 หรือ 没有 วางไว้หน้าคำนาม แปลว่า "ไม่มี"
โครงสร้าง  没(有) + คำนาม

我没有钱。
Wǒ méiyǒu qián.
ชั้นไม่มีตังค์ 

他没有女朋友。
Tā méiyǒu nǚpéngyou.
เค้าไม่มีแฟน (แนะนำให้เอาป่ะ?)


และก่อนจบ เราห่างหายไปนานกับแบบฝึกหัดหรรษา (หราาา??) เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จัดไป รับรองอ่านโพสมาแล้วทำได้แน่นอนค่าา อย่าทำให้สุ่ยหลินผิดหวังน้า กดดันคุณผู้อ่านคืองานของสุ่ยหลิน อิ อิ 

1. ถ้าเราต้องการบอกว่าฝนยังไม่ตก อันไหนถูก
A. 天不下雨了。 B. 天没下雨。


2. เพื่อนยังมาไม่ครบ ถามเพื่อนอีกคน ได้คำตอบแบบไหนคือแม่ม..ไม่มาแน่ๆแล้ว
A. 他不来了。B. 他没来。

3. ไปกินบุพเฟต์กัน เพื่อนพูดแบบไหน เราจะได้แกล้งพาไปกินเนื้อวากิวซะเลย
A. 我不吃牛肉。B. 我没吃牛肉。


ตอบกันมาเยอะๆนะค้าาาาา เดวมาเฉลยทีหลังจ้าาา

สุ่ยหลิน^^


-------------------------------
ติดตามเรื่องราวสนุกๆ น่าสนใจ มีสาระเกี่ยวกับภาษาจีนได้ที่
FB: 
https://www.facebook.com/chinesexpert/
Blog: http://chinesexpert.blogspot.com/
Line@ : @xulin

-------------------------------

หนังสือ eBook ของสุ่ยหลินจะวางขายเดือนมกราคมปีหน้าแล้วนะค้าา ขายในรูปแบบไฟล์ โดยสามารถอ่านได้ใน smart phone ทู้กอย่างเลยค่า ไม่ว่าจะเป็น Iphone, IPad, Galaxy, Samsung ได้หมดเลย พกพาไปไหนก็สะดวก อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาค่ะ^^ ไม่หนักกระเป๋า








วันนี้ลองมาดูสิว่าสารบัญหมวดเรียนจีนไม่เห็นยาก (หมวด 1) มีเรื่องอะไรให้อ่านกันมั่งนะ^^

ตั้งแต่หน้าแรกเลยจ้า

  • 8 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเรียนภาษาจีน
  • พินอินคืออะไร‬อ่านออกไปแล้วคนจีนยังงง??
  • ต้องจำภาษาจีนทั้งหมดกี่ตัวถึงใช้ภาษาจีนได้? ท้อแท้นะสิบอกให้(最常用的 1,000个汉字)ตอน 1 และ ตอน 2
  • dōng xī VS dōng xi ? เสียงยาว เสียงเบาสำคัญยังไงนะ?
  • 会VS 能 VS可以ก็แปลว่า "สามารถ" แล้วใช้ต่างกันตรงไหน?
  • 有点儿VS一点儿อันไหนน้อยกว่ากัน?
  • 偏旁 [Piānpáng] (เพียน ผาง) หมอนข้างจีน
  • 哪里VS 哪เหมือนกันมากมาย??ใช้ต่างกันตรงไหน?
  • 上คำแปลได้ครอบจักรวาล ทั้งที่ขีดนิ๊ดเดียว
  • ประโยคที่คนไทยชอบใช้ผิด(离合词) 
  • Active Voice & Passive Voice ในภาษาจีน
  • ตกลงว่าแค่ไหนคือมีเวลามาก?
  • 12 คำอุทานยอดฮิตในภาษาจีน

ที่สำคัญทั้งหมดอ่านง่าย อ่านสนุก ไม่น่าเบื่อชัวร์ๆ ไฟล์หนังสือหนา 238 หน้า ราคาปก 220 บาทแต่ลดเหลือ 180 บาทเท่านั้น

วางขายที่ Online bookstore ต่างๆเช่น  Ookbee,Mebmarket,Narin (นายอินทร์), Se-ed (ซีเอ็ด) ในเวอร์ชั่น eBook ครัชชช 


ฝากติดตามสุ่ยหลินด้วยนะคะ^^