Wednesday, December 30, 2015

รวมโพสภาษาจีนที่สุดแห่งปี 2015 กับสุ่ยหลินนนน!!

ช่วงนี้ใกล้สิ้นปีแล้วนะคะ สุ่ยหลินดูทีวีก็เห็นเค้าชอบรวมที่สุดของข่าวประจำปี คิดว่าครีเอทดีแฮะ เลยขอเอามารวมกับโพสของสุ่ยหลินมั่ง เผื่อเราจะได้รำลึกความหลังด้วยกันน้า ว่าเราฟันฝ่าเรียนภาษาจีนด้วยกันมาขนาดไหน (เว่อร์ม่ะ  อิ อิ)

งั้นมาอ่านเล่นๆ เอาสนุกกันนะคะ สุ่ยหลินไม่มีหลักเกณฑ์อะไรซักกะอย่าง เอาความรู้สึกล้วนๆ งานมโนมาตรึมจ้า

ติดตามรวมโพสที่สุดแห่งปีกับสุ่ยหลินค่าาา^^


อันดับ 1. โพสที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล 

ได้แก่.... (ต้องเว้นวรรคนิดนุงด้วยนะ ได้อารมณ์มากขึ้นนน)
中国礼节: 7 ข้อที่ควรรู้เวลาไปกินโต๊ะจีน (เรื่องกินๆ ที่อย่ามองข้าม) โพสนี้สุ่ยหลินโพสเมื่อวันที่ 25 มิย. 2558 ค่าา เป็นสุดยอดโพสที่ได้รับความนิยมตลอดกาลด้วยยอดวิว 103,000++ แชร์ไปเยอะมากจำบ่ได้คับ  ขอบคุณคุณผู้อ่านมากจิงๆ คร้าบบ

ใครยังไม่ได้อ่านโพสยอดนิยม โพสมหาชนของสุ่ยหลินโพสนี้คลิกได้ที่นี่ค่า  http://chinesexpert.blogspot.com/2015/06/7.html




อันดับ 2. โพสที่มีภาษาจีนน้อยมาก

อย่างที่รู้กันว่าสุ่ยหลินเขียนหนังสือสอนภาษาจีน แต่มีอยู่โพสนึงมีภาษาจีนน้อยมากคือมีแค่ "2 คำ" ของทั้งโพส แต่กลับได้รับความนิยมจนติดอันดับโพสคนอ่านเยอะะะ โพสนั้นก็คืออ....

เรื่องลึกลับที่เราที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับจิ๋นซีฮ่องเต้!! (秦始皇帝) โพสนี้มีภาษาจีนแค่ 2 คำคือคำว่า 秦始皇帝 = จิ๋นซีฮ่องเต้กับ 马王堆 ชื่อภรรยาท่านอ๋อง นอกนั้นภาษาไทยล้วนๆ แต่คุณผู้อ่านชอบมั่กๆๆๆ มียอดวิว 6,000++

ใครพลาดไม่รู้จักจิ๋นซีเว่อร์ชั่นสุ่ยหลินเล่าเรื่องคลิกที่นี่ครัช  http://chinesexpert.blogspot.com/2015/09/blog-post_20.html





อันดับ 3. จำนวนค่าเฉลี่ยโพสของสุ่ยหลินต่อเดือน?

หลังจากไปดูสถิติตัวเองแว้ว สุ่ยหลิน (เพิ่ง) เจอว่าตัวเองทำโพสเฉลี่ยเดือนละ 12-14 โพส เดือนที่เยอะสุดคือเดือนกค.ปี 2558 คือ 17 เรื่องค่า สงสัยเดือนนั้นถูกโด๊ปด้วยดีหมี เอ้ยย..แบรนด์ซุปไก่ ทั้งปี 2558 สุ่ยหลินโพสไป 110++ เรื่องค่า หมวยสู้ถวายหัวเพื่อคุณผู้อ่าน ไฝว์ๆๆ!!



อันดับ 4. โพสที่สุ่ยหลินคิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับคุณผุ้อ่านที่เริ่มเรียนภาษาจีนมากที่สุด ได้แก่....

หลังจากทำ Fanpage, Blog, Line@ มาหลายปี สุ่ยหลินก็พบว่ามีคุณผู้อ่านที่สนใจอยากเรียนภาษาจีนก้าวมาติดตามสุ่ยหลินมากขึ้นเรื่อยๆ สุ่ยหลินเลยจัดโพสนี้เขียนไว้ให้สำหรับคุณผู้อ่านที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาจีนเลยค่าา กับโพส อยากเรียนภาษาจีนกลาง ก้าวแรกจะเริ่มยังไงดี??? สุ่ยหลินรับรองว่าของดี มีประโยชน์ชัวร์ๆ ค้าบบ คลิกที่นี่โลด
http://chinesexpert.blogspot.com/2015_09_01_archive.html 





แถมให้อีกหนึ่งโพสนะคะ มีประโยชน์มากๆ เลยสำหรับคนเพิ่งเริ่มเรียนภาษาจีนกับโพส Top 10 ช่อง YouTube สำหรับเรียนภาษาจีนสุดฮิป !! คลิกที่นี่ http://chinesexpert.blogspot.com/2015/10/top-10-youtube.html






อันดับ 5.  โพสที่ใช้เวลาในการเขียนนานที่สุด?

โดยปกติแล้วโพสนึงของสุ่ยหลินใช้เวลาในการเขียนเฉลี่ย 1.5-2 ชม.ค่ะ รวมหารูปประกอบด้วย แต่ก็มีบางโพสเขียนได้เร็วกว่านั้นและบางโพสที่ใช้เวลาในการเขียนนานกว่านั้น ซึ่งโพสที่จะพูดถึงนี้เป็นโพสที่ใช้เวลาในการเขียนนานมว๊ากกกค่าา สุ่ยหลินกะๆ เอาว่าใช้เวลาหลายวันแต่ไม่ได้ทำตลอดถ้านับเป็นชั่วโมงก็น่าจะ 7-8 ชม. ได้ เหตุผลเพราะโพสนี้มีศัพท์เฉพาะถิ่นเยอะ ภาษาพูดก็เยอะ แปลแล้วต้องไปรบกวนให้เพื่อนคนจีนช่วยตรวจให้อีกที กลัวไม่ถูกคร้าบบ

โพสนี้ได้แก่ๆๆๆๆ.....

ฉันกับพ่อกับทุกช่วงในชีวิต ทั้งหมด 30 ปี 大萌子和萌爸1岁照 โพสต้อนรับวันพ่อเมื่อวันที่ 5 ธค.ปีนี้ค่า ใครยังไม่ได้อ่านความสัมพันธ์พ่อลูกแบบกุ๊กกิ๊กๆ น่ารัก สุ่ยหลินแนะนำเลยน้า อบอุ่นมากๆ ค่า http://chinesexpert.blogspot.com/2015/12/30-1.html





อันดับ 6.  โพสที่คนอ่านน้อยที่สุด?

เมื่อมีโพสที่มีคนอ่านเยอะแล้วคือเรื่องโต๊ะจีน ก็มาถึงโพสที่คนอ่านน้อยที่สุดมั่ง โพสนี้ถือว่าอยู่ในช่วงแรกๆ ของการทำ Blog เรียนจีน ให้ได้จีนของสุ่ยหลินเลย โพสนั้นได้แก่..(ไม่ต้องมีเอคโค่น้า เพราะเรื่องมันเศร้าาา TT)

การเดินทางในจีน (中国交通) ตอนรถไฟ มียอดวิว 125 คนค่าา แงๆๆ คุณผู้อ่านไม่ชอบรถไฟใช่ป่าวคะ? ไม่ช่ายไม่ชอบสุ่ยหลิน ถ้าอยากรื้อฟื้นความหลังโพสวิวน้อยที่สุดนี้คลิก ซิกๆ  http://chinesexpert.blogspot.com/2015/05/blog-post_12.html






อันดับ 7. โพสแป้กที่สุด?

โพสนี้น่ะ ตอนเขียนสุ่ยหลินหมายมั่นปั้นมือว่าคุณผู้อ่านต้องชอบแน่ๆ ต้องตลก ต้องขำ ต้องอะไรๆ อีกตั้งเยอะ ปรากฏว่าโพสไปแว้ว เงียบมากคร่าา นู๋ทำอะไรผิดใครบอกทีๆๆๆ ซิกๆ

โพสนี้ก็คือ มาคุยกันเรื่องขนๆ !!!! (全身毛) ^O^ ใครคิดว่าไม่น่าจะแป้กหรอกน่าแต่ยังไม่ได้อ่าน คลิกที่นี่คับ http://chinesexpert.blogspot.com/2015/12/o.html





จบแว้วค่า หากคุณผู้อ่านมีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมบอกสุ่ยหลินได้นะคะ ชอบไม่ชอบยังไงสุ่ยหลินจะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นๆ ต่อไป ความเห็นของคุณผู้อ่านมีค่าเสมอค่ะ

สวัสดีปีใหม่นะคะ^^

สุ่ยหลิน


******************

หนังสือ eBook ของสุ่ยหลินจะวางขายเดือนมกราคมปีหน้าแล้วนะค้าา ขายในรูปแบบไฟล์ โดยสามารถอ่านได้ใน smart phone ทู้กอย่างเลยค่า ไม่ว่าจะเป็น Iphone, IPad, Galaxy, Samsung ได้หมดเลย พกพาไปไหนก็สะดวก อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาค่ะ^^ ไม่หนักกระเป๋า

วันนี้สุ่ยหลินเลยเอาหน้าปกมาให้ยลดูก่อน อิ อิ หนังสือแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆ ค่ะ ได้แก่






  1. เรียนจีนไม่เห็นยาก (วิธีเรียนภาษาจีนให้ง่ายๆ สไตล์สุ่ยหลิน), 
  2. รู้จักจีน (วัฒนธรรมจีน อาหาร เรื่องฮา ๆ แปลกๆ ความรู้ทั่วไป เพื่อให้เข้าใจภาษาจีนอย่างลึกซึ้งขึ้น^^) 
  3. และสุดท้ายศัพท์จีนในโลกโซเซี่ยล (เอาไว้แชท, เอาไว้ด่า เอ้ยย..โต้ตอบ เอาไว้เข้าใจวิถีใหม่ๆ ของโลกยุคปัจจบุันในเวอร์ชั่นภาษาจีน) 
คุณผู้อ่านอาจจะถามว่าเย้ยย!!.. แล้วมันจะต่างอะไรกะอ่าน Fanpage อ่าน Blog ล่ะจ๊ะเธอวว์??

สุ่ยหลินต้องขอตอบว่า....ต่างค้าบบบเพราะว่าตอนที่เขียน post ใน Fanpage และใน Blog นั้น บางทีเนื้อหาอาจไม่ครอบคลุมทุกประเด็นของคำๆ นั้น พอมาเป็นหนังสือสุ่ยหลินก็เขียนเพิ่มเติมให้ครบถ้วนมากขึ้นอีกค่าา

ที่สำคัญทั้งหมดอ่านง่าย อ่านสนุก ไม่น่าเบื่อชัวร์ๆ ไฟล์หนังสือหนา 238 หน้า ราคาปก 220 บาทแต่ลดเหลือ 180 บาทเท่านั้น

วางขายที่ Online bookstore ต่างๆเช่น Ookbee,Mebmarket,Narin (นายอินทร์), Se-ed (ซีเอ็ด) ในเวอร์ชั่น eBook ครัชชช

ฝากติดตามสุ่ยหลินด้วยนะคะ^^




















Monday, December 28, 2015

เรื่องกินที่ไม่ได้กิน เอ๊ะ! ยังไง?? (俚语)

สุ่ยหลินคิดว่าสำหรับคนจีนแล้วเรื่องกินคือ "เรื่องหญ่าายยย" จริงๆ เพราะเจอหน้ากันก็ต้องทักว่ากินข้าวยัง เทศกาลอะไรๆ ก็ต้องมีของไหว้และก็ต้องกินของไหว้นั้นให้หมดด้วย ><'  หุ่นเราก็เลยเป็นผลผลิตของวัฒนธรรมแบบเนี้ยย แหะๆ

จำได้ว่าตอนสมัยอาม่าเคร่งครัดกันมากๆ ต้องทำของไหว้เองเช่น ขนมเทียน ขนมเข่ง บะจ่าง ไชเถ่าก้วย ขนมอี๋ หากเป็นพวกต้มไก่ ต้มเป็ด ถ้ากินไม่หมดก็เอามาพะโล้ เหลืออีกเอามาทำก๋วยเตี๋ยว ยังเหลืออีกเอามาทอดโรยเกลือเค็มๆ เก็บได้อีกเป็นอาทิตย์ไม่ให้เสียของ พูดแล้วอยากกินเป็ดทอดโรยเกลือเค็มๆ กะข้าวต้มเนอะ 555

ก็เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องหญ่ายแบบนี่นี้เองค่าา คนจีนเค้าก็เลยมีคำสแลง (俚语) [lǐyǔ] ที่ใช้คำศัพท์เกี่ยวกับเรื่องกินๆ แต่ไม่ได้มีความหมายเกี่ยวกับเรื่องกินเล๊ยยย เคยเจอแม่ะ??

ถ้าไม่เคย ติดตามในโพสสุ่ยหลินได้จ้า


ศัพท์เรื่องกินๆ  ที่ไม่ได้กิน^^


คำแรก 饭碗 [fànwǎn]


คำนี้แปลตรงๆ คือชามข้าว  แต่สำหรับภาษาจีนแล้วมีความหมายแฝงว่า "งานที่ทำเพื่อดำรงชิวิต" เพราะถ้ายังมีชามข้าวใส่ข้าวกิน ก็หมายถึงว่ามีงานทำ ยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้นั่นเองค่าาา

มาดูตัวอย่างกันดีก่า

这么努力工作是为了保住饭碗。
Zhème nǔlì gōngzuò shì wèile bǎozhù fànwǎn。
ที่ (ชั้น) ขยันอย่างงี้ ก็เพื่อให้ยังมีงานทำนะสิ

นอกจากนี้ ยังมีคำอยู่อีกคำหนึ่งคือคำว่า 铁饭碗 [tiěfànwǎn] ซึ่งแปลตรงตัวว่า ชามข้าวเหล็ก
ทำไมต้องชามข้าวเหล็กล่ะ???



ภาพจาก roll.sohu.com

เพราะแบบนี้ค่าาา เมื่อชามข้าวมีความนัยถึงงานที่ดำรงชีพ "ชามข้าวเหล็ก" ก็เลยหมายถึงงานที่โค-ตะ-ระ มั่นคงมากๆ เพราะไม่แตกง่ายเหมือนชามกระเบื้อง สมัยก่อนคนจีนถือว่างานราชการหรือคนที่ทำงานกับรัฐเป็น 铁饭碗 เลยค่า ไม่ไล่ออกกันง่ายๆ ว่าอย่างนั้น เดี๋ยวนี้ก็ยังถือแบบนี้เหมือนกันแต่ลดลงมามั่ง เพราะเอกชนจ่ายดีกว่า เหมือนของเมืองไทยเลยว่าม่ะ?



คำที่ 2 จัดมาๆ 啃老族 [kěnlǎozú]


คำนี้มีความหมายเดียวกับคำว่า 吃老族 [chīlǎozú] และ  傍老族 [bànglǎozú] ค่าา  ทั้งสามคำมี 老族 ลงท้ายเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ตัวหน้าคือ 啃, 吃, 傍 

ลองดูคำว่า 啃, 吃 สังเกตดูจะเห็นคำว่า  "ปาก" อยู่ ดังนั้นต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวกับปากชัวร์ๆ นะ 啃 แปลว่า "แทะ" ส่วน 吃 คือกิน เรารู้จักกันดี

อ่ะ..มาดู 傍 กันมั่ง  傍 ตัวนี้แปลว่า "พักพิง" หรือ "พึ่งพิง" ก็ได้ ถ้าเราต้องพึ่งพึงใครก็ต้องมี "คน" ใช่ไหมคะ ดังนั้นจึงมีตัว 亻อยู่ข้างหน้า ไงครัช

คำพวกนี้จึงแปลว่า "แทะคนแก่" "กินคนแก่" และ "พิงคนแก่" ตามลำดับ
พอเดาออกใช่ไหมล่าา ว่าความหมายคืออะไร ??


ภาพจาก www.23yy.com


ใช่แว้ววค่า เก่งมากๆ (สุ่ยหลินมโนว่าทุกคนเดาถูกกก) คำเนี้ยใช้เรียกพวกหนุ่ม ๆ สาวๆ ที่ไม่ยอมทำงาน ไม่ยอมหางานทำทั้งที่หาได้ เพราะอ้างว่าตัวเองจบมหาลัยดังๆ ให้เงินเดือนต่ำทำไม่ไหว หรืองานเครียดเกินทนรับ จึงอยู่กับพ่อแม่ดีกว่า อย่าทำงานให้เหนื่อยเลย แถมยังใช้ชีวิตไฮโซ หรูหราอีกด้วย เลยกลายเป็นคนตกงานแถมยังไม่ตั้งใจหางานใหม่อีกตังหาก เป็นคำเรียกเสียดสีหนุ่มๆ สาวๆ จีนรุ่นใหม่ในยุคนี้ค่า สุ่ยหลินว่าใกล้กับคำว่า เกาะพ่อแม่ ในภาษาไทยนะ

มาดูตัวอย่างจ้า

我也不想做啃老族 啊,可是薪水这么低 !
Wǒ yě bùxiǎng zuò kěnlǎozú a, kěshì xīnshuǐ zhème dī!
ชั้นก็ไม่อยากเกาะพ่อแม่กินเหมือนกันล่ะน่า แต่เงินเดือนไมมันต่ำอย่างงี้ล่ะ



คำที่ 3 吃老本 [chī lǎoběn]


คำนี้แปลได้ว่า "กินสมบัติเก่า" หรือ "ใช้ความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน" (โดยไม่มีอะไรใหม่ๆ ) เลย สุ่ยหลินว่าใกล้เคียงกับภาษาไทยว่า "กินบุญเก่า" ก็ได้นะ


ภาพจาก http://www.haha365.net/

คำนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเพราะ 周恩来 [Zhōu'ēnlái] พูดเมื่อปี 1977 ว่าอยากให้ผู้นำ (จีน) สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ขึ้นมาอย่ามัวแต่กินบุญเก่าหรืออยู่แค่บนความสำเร็จของเดิมๆ 
ประโยคดั้งเดิมของเค้าว่างี้ 坚决执行 毛主席 的指示,教育老干部不要吃老本,要立新功,立新劳。”如:当今世界,科学知识更新很快,我们不能光是吃老本,要时时学习新的东西。

ดูตัวอย่างประโยคกัลล

他失业后只能吃老本。
Tā shīyè hòu zhǐnéng chī lǎoběn.
หลังจากตกงาน เขาก็ต้องกินบุญเก่า (เอาเงินเก็บมาใช้) 


วันนี้จัดไป 3 คำกันก่อนน้า คราวหน้าเดวสุ่ยหลินมาคำใหม่ๆ มาเสริมให้อีกนะครัช โปรดติดตามนะจ๊ะ

สุ่ยหลิน^^


******************

หนังสือ eBook ของสุ่ยหลินจะวางขายเดือนมกราคมปีหน้าแล้วนะค้าา ขายในรูปแบบไฟล์ โดยสามารถอ่านได้ใน smart phone ทู้กอย่างเลยค่า ไม่ว่าจะเป็น Iphone, IPad, Galaxy, Samsung ได้หมดเลย พกพาไปไหนก็สะดวก อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาค่ะ^^ ไม่หนักกระเป๋า

วันนี้สุ่ยหลินเลยเอาหน้าปกมาให้ยลดูก่อน อิ อิ หนังสือแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆ ค่ะ ได้แก่





  1. เรียนจีนไม่เห็นยาก (วิธีเรียนภาษาจีนให้ง่ายๆ สไตล์สุ่ยหลิน), 
  2. รู้จักจีน (วัฒนธรรมจีน อาหาร เรื่องฮา ๆ แปลกๆ ความรู้ทั่วไป เพื่อให้เข้าใจภาษาจีนอย่างลึกซึ้งขึ้น^^) 
  3. และสุดท้ายศัพท์จีนในโลกโซเซี่ยล (เอาไว้แชท, เอาไว้ด่า เอ้ยย..โต้ตอบ เอาไว้เข้าใจวิถีใหม่ๆ ของโลกยุคปัจจบุันในเวอร์ชั่นภาษาจีน) 
คุณผู้อ่านอาจจะถามว่าเย้ยย!!.. แล้วมันจะต่างอะไรกะอ่าน Fanpage อ่าน Blog ล่ะจ๊ะเธอวว์??

สุ่ยหลินต้องขอตอบว่า....ต่างค้าบบบเพราะว่าตอนที่เขียน post ใน Fanpage และใน Blog นั้น บางทีเนื้อหาอาจไม่ครอบคลุมทุกประเด็นของคำๆ นั้น พอมาเป็นหนังสือสุ่ยหลินก็เขียนเพิ่มเติมให้ครบถ้วนมากขึ้นอีกค่าา

ที่สำคัญทั้งหมดอ่านง่าย อ่านสนุก ไม่น่าเบื่อชัวร์ๆ ไฟล์หนังสือหนา 238 หน้า ราคาปก 220 บาทแต่ลดเหลือ 180 บาทเท่านั้น

วางขายที่ Online bookstore ต่างๆเช่น  Ookbee,Mebmarket,Narin (นายอินทร์), Se-ed (ซีเอ็ด) ในเวอร์ชั่น eBook ครัชชช

ฝากติดตามสุ่ยหลินด้วยนะคะ^^

Friday, December 25, 2015

ซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือน ตอน 念 กับ 读 แปลว่า "อ่าน" เหมือนกัน ต่างกันตรงไหนนะ?


สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพจสุ่ยหลินทุกคนคะ ใกล้จะปีใหม่แล้ว สุ่ยหลินขออนุญาตอวยพรให้แฟนเพจและครอบครัวทุกคนมีความสุขมากๆ เป้าหมายอะไรที่ตั้งไว้ขอให้เป็นจริงอย่างที่ต้องการนะคะ

祝大家新年快乐、 身体健康、 合家幸福、万事如意!
Zhù dàjiā xīnniánkuàilè, shēntǐ jiànkāng, héjiā xìngfú, wànshìrúyì!

สำหรับปีหน้าสุ่ยหลินเองก็มีแผนเพื่อคุณผู้อ่านหลายอย่างเลย 

อย่างแรกคือจะมุ่งมั่นพัฒนาโพสตัวเองให้ดียิ่งขึ้นๆ เนื้อหาในครอบคลุมมากขึ้น ภาพประกอบดีขึ้น สวยขึ้น อ่านง่ายขึ้น แต่สนุก มันส์ ฮา เหมือนเดิม อิ อิ 
นอกจากนี้มีแผนจะพัฒนา platform ของสุ่ยหลินจาก Blog และ Fanpage ไปเป็น website ด้วยค่ะ เพื่อให้แฟนเพจหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น จะกด Like จะกด Share หรือหาข้อมูลย้อนหลังก็ง่ายกว่าเดิมด้วยนะ

สุ่ยหลินรู้ดีว่าตัวเองมาถึงจุดสตรอ เอ้ยยย! สตรอง(แหม๋ กำลังซึ้งเนอะ อิ อิ) จุดนี้หรือก้าวนี้ได้ ก็ด้วยการสนับสนุนจากแฟนเพจและผู้อ่านทุกคนค่ะ สุ่ยหลินไม่เคยลืมเลยจริงๆ ขอบคุณมากๆ นะคะ^^ เลยอยากขอร้อง (แกมบังคับ 55) ให้ติดตามกันต่อๆ ไปด้วยน้า อย่าทิ้งเค๊านะค้าาตัวเองงง!!

แพล่มมานานแระ ยังไม่เข้าเนื้อหาของโพสนี้เลย แหะๆๆ

เริ่มกันเลยดีกว่า.... 

สุ่ยหลินสังเกตมานานแล้วว่า ภาษาจีนมีคำที่แปลเป็นภาษาไทยแล้วคล้ายกันมากๆ หลายคำ นี่ถ้าเอาแต่เปิดดิกคำแปลอย่างเดียว เราไม่เห็นความต่าง แต่พอมาเรียนรู้ความหมายของคำแล้ว ก็พบว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ที่ต่างกัน บางสถานการณ์ก็ใช้แทนกันได้ บางสถานการณ์ก็ใช้แทนไม่ได้ ซึ่งดิก Chi-Thai หรือ Chi-Eng อธิบายไม่ละเอียดเท่าไหร่ เลยคิดอยากเขียนโพสชุดซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือน แล้วแบ่งเป็นตอนๆ ไป ติดตามซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือนในตอนแรกได้ในโพสนี้ค่าาา อุ อิ ๆ

ซีรีย์คำเหมื๊อนเหมือน  
ตอน 念 [niàn] กับ 读 [dú] แปลว่า"อ่าน" เหมือนกัน ต่างกันตรงไหนนะ?




ลองเปิดดิกดูเราจะพบว่า 念 [niàn] = อ่าน และพอเปิดดิกดู (อีกที) 读 [dú] = อ่าน เหมือนกัน แล้ว 2 คำนี้ต่างกันยังไงนะ???


มาดูความหมายของ 念 กันก่อน
ความหมาย 1 แปลว่า "อ่านหนังสือแบบอ่านออกเสียง"
เช่น

这篇课文词太多,我念不下去了。

[Zhè piān kèwén cí tài duō, wǒ niàn bù xiàqù le.] 
= บทความนี้เนื้อหาเยอะเกิ๊น ชั้นอ่าน (ออกเสียง) ไม่ไหวแหล่วว (เสียงแหบหมดแว้วว)

ความหมาย 2 แปลว่า "เรียนหนังสือ"
เช่น

他只念了中学,没有念过大学。
[Tā zhǐ niàn le zhōngxué, méiyǒu niàn guo dàxué.] 
= เค้าเรียนหนังสือแค่มัธยม ไม่มี (โอกาส) ได้เรียนมหาลัย

ความหมาย 3 แปลว่า "สวด"

 念 มีอีกความหมายนึงที่การใช้เหมือนภาษาไทยเด๊ะเลยคือ "สวด"
จะแปลว่าสวดมนต์ หรือ โดนสวด(โดนด่า) ก็ได้ค่ะ
เช่น

老和尚在念经
[Lǎo héshàng zài niànjīng]
=  พระกำลังสวดมนต์

我被老板念了半天
[Wǒ bèi lǎobǎn niàn le bàntiān]
= ชั้นโดนเจ้านายสวดซะยกใหญ่


มาดู
ความหมายของ  กันมั่งเนอะ
ความหมาย 1 แปลว่า "อ่านหนังสือแบบอ่านออกเสียง" เว้าง่ายๆ คือแปลเหมือน 念 เลยค่า ในความหมายนี้ทั้ง 2 ตัวเลยใช้แทนกันได้น้า*
เช่น

他每天一定要读三个小时的中文书。 
[Tā měitiān yīdìng yào dú sān gè xiǎoshí de Zhōngwén shū.] 
= เค้าต้องอ่านหนังสือภาษาจีนวันละ 3 ชม.ทุกวันเรยย (ขยันมากๆ ไม่ใช่สุ่ยหลินแน่นนอน อิอิ)

ความหมายที่ 2 แปลว่า "เรียนหนังสือ" ความหมายนี้ก็แปลเหมือน 念 เลย ใช้แทนกันได้เหมือนกันจ้า*
เช่น

他正在读大学一年级。 [Tā zhèngzài dú dàxué yī niánjí] = เค้ากำลังเรียนอยู่มหาลัยปี 1

ความหมาย 3 บางครั้ง 读 แปลว่า "อ่านหนังสือเฉยๆ" ไม่ได้อ่านออกเสียงด้วยก็ได้ค่ะ ต้องดูรูปประโยคเป็นกรณีๆ ไป 


ซึ่งหากว่า  ใช้ในหมายความว่า "อ่านหนังสือ แบบไม่ออกเสียง" เราจะไม่สามารถเอา 念 มาแทน 读 ในประโยคแบบนี้ได้นะครัชช
เช่น

我读过很多古书。
[Wǒ dúguò hěnduō gǔshū.] 
= ชั้นอ่านหนังสือเก่าๆ มาแล้วเยอะแยะ 
ไม่ได้แปลว่าชั้นอ่านออกเสียงหนังสือเก่าๆ มาแล้วเยอะแยะน้าาา


จะเห็นว่าภาษาจีนมีคำศัพท์แบบนี้แยะเลย คือมีส่วนที่ทับซ้อนกันใช้แทนกันได้ แต่ก็มีบางสถานการณ์ใช้แทนกันไม่ได้เลย เราต้องค่อยๆ เรียน ค่อยๆ ฝึกเพื่อให้เห็นความต่างปลีกย่อยตรงนี้ พูดอย่างหรูๆ เค้าเรียกว่า Sense ของภาษาค่าา (พูดแล้วดูดีเชียะ อิ อิ)

เรียนไปด้วยกันกับสุ่ยหลินนะคะ^^



-------------------------------
หนังสือ eBook ของสุ่ยหลินจะวางขายเดือนมกราคมปีหน้าแล้วนะค้าา วันนี้เลยเอาหน้าปกมาให้ยลดูก่อน อิ อิ หนังสือแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆ ค่า ได้แก่ 




เรียนจีนไม่เห็นยาก (วิธีเรียนภาษาจีนให้ง่ายๆ สไตล์สุ่ยหลิน),

รู้จักจีน (วัฒนธรรมจีน อาหาร เรื่องฮา ๆ แปลกๆ ความรู้ทั่วไป เพื่อให้เข้าใจภาษาจีนอย่างลึกซึ้งขึ้น^^) 

และสุดท้ายศัพท์จีนในโลกโซเซี่ยล (เอาไว้แชท, เอาไว้ด่า เอ้ยย..โต้ตอบ เอาไว้เข้าใจวิถีใหม่ๆ ของโลกยุคปัจจบุันในเวอร์ชั่นภาษาจีน)

ทั้งหมดอ่านง่าย อ่านสนุก ไม่น่าเบื่อเหมือนสไตล์โพสสุ่ยหลินเด๊ะๆ เรยย หนังสือหนา 238 หน้า เล่มละ 180 บาทครัชช จะวางขายที่ Ookbee และช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆ นะคะ

ฝากติดตามด้วยนะคะทุกคนนน^^



สุ่ยหลิน^^















Friday, December 18, 2015

มาคุยกันเรื่องขนๆ !!!! (全身毛) ^O^

สวัสดีค่ะแฟนเพจที่น่ารักทู้กคนเลย วันนี้สุ่ยหลินอยากมาเสนอศัพท์ที่เราเจอทุกวันแต่กลับมองข้ามมม พอถึงเวลาจะใช้จริงๆ กลับอึกอักๆ พูดไม่ออก ไม่รู้พูดยังไงเรยนะ

นั่นก็คือเรื่องของ.....ขน...ค่าาาา (ถ้าดูการ์ตูน เราก็จะเห็นเม็ดเหงื่อ เม็ดโตๆ ผุดขึ้นที่ข้างขมับคุณผู้อ่าน หุ หุ)

แต่อย่า...อย่าดูถูกกันไปก่อน (อ่านโพส) นะครัช ขนในร่างกายเรามีตั้งหลายที่ ตอนนี้สุ่ยหลินให้คุณผู้อ่านคิดก่อนเลยว่ามีศัพท์อะไรมั่ง?

อ่ะ.. เห็นป่าวค้าบว่านึกไม่ค่อยจะออกกัน เพราะเราไม่ค่อยจะได้พูดได้ใช้กันเท่าไหร่ ติดตามสาระล้วนๆๆ เรื่องขนๆ กับสุ่ยหลินในโพสนี้จ้าา

เรารู้กันว่าขนในภาษาจีนเรียกว่า 毛 [máo] แต่ร่างกายเรามีขนส่วนอื่นๆ อีก 2 จุดที่เป็นขนแต่ไม่ใช้คำว่า 毛 เป็นส่วนประกอบค่ะ นั่นก็คือ "ผม" ภาษาจีนเรียก 头发 [tóufa]  และ
 "หนวดเครา" เรียก 胡子[húzi]  

ที่เหลือมีคำว่า 毛 ประกอบด้วยหมดเลยย มาเริ่มกันตั้งแต่หัวจรดเท้านะจ๊ะ

ใบหน้า


ขนคิ้ว เฮาเรียก 眉毛 [méimáo] สังเกตนะจ๊ะว่าในคำว่า 眉  มีตัว 目 [mù] ที่แปลว่า "ตา" ประกอบด้วย เพราะขนคิ้วอยู่บนตาไงจ๊ะ ส่วนด้านบนให้จินตนาการว่าเหมือนแสกผมปัดลงซ้ายอยู่บนดวงตา ตรงกลางก็คือขนคิ้วล่ะครัชชช


ขนตา เราเรียก 眼睫毛 [yǎnjiémáo] หรือจะเรียกย่อๆ ว่า  睫毛 [jiémáo]  ก็ได้ สังเกตด้านซ้ายมี 目 อยู่ด้วยนะ เพราะเกี่ยวกับดวงตาไงจ๊ะ




ขนจมูก เรียก 鼻毛 [bímáo] แปลตรงตัวเรยนะจ๊ะ  鼻子 [bízi] = จมูก





ลำตัว


ขนอ่อนตามตัว ภาษาจีนเรียก 汗毛 [hànmáo]  ทำไมถึงเรียกแบบนี้ล่ะ? ก็เพราะว่าขนอ่อนพวกนี้เป็นจุดที่เหงื่อออกตามรูขุมขน สังเกตว่า  汗 คือตัวเดียวกะ 汗 [hàn] ที่แปลว่าเหงื่อคับ ขนตรงริมฝีปากของผู้หญิงที่บ่จ้ายหนวดก็ใช้คำนี้ได้นะจ๊ะ



ขนจุ๊กกุแร้ (รักแร้)เค้าเรียก 腋毛 [yèmáo] ส่วนจุ๊กกุแร้เฉยๆ เรียก 
腋下 [yèxià] 


ขนหน้าอก สำหรับหนุ่มๆ ที่มีขนหน้าอกแบบปุกปุย อิ อิ ภาษาจีนเรียก 胸毛 [xiōngmáo] เพราะแผงอกเค้าเรียก 胸部 [xiōngbù] ม่ะใช่อกของผู้หญิงนะครัชช อุ อุ




ขนมือ เราเรียก 手毛 [shǒu máo] ตรงตัวนะจ๊ะ




ขนขา ก้อเรียก 脚毛 [jiǎo máo] ตรงตัวเหมือนกัน




เอิ่ม...ส่วนขนตรงนั้น ><' (เพื่อการศึกษานะคับ อย่าโกรธน้า) ภาษาจีนก็เรียกแบบเลี่ยงๆ เหมือนภาษาไทยว่า 那里的毛 [nàlǐ de máo] หรือถ้าต้องการเรียกแบบเป็นทางการจิ๊ดนึงก็เรียกว่า 阴毛 [yīnmáo] ก็ได้ แปลกใจไหม ทำไมถึงใช้คำว่า 阴 นะ??

阴 ตัวนี้ก็คือที่ภาษาไทยเรียก "หยิน" ของหยินหยางนั่นเองค่าา เพราะความหมายของ 阴 ตัวเดียวคือ "มืด" "ไม่สว่าง"  เหมือนที่เราเรียกวันฟ้าครึ้มๆ ว่า 阴天 [yīn tiān] ถึงเอามาใช้เป็นคำศัพท์ตรงนี้ด้วยไง วิชาการเห็นม่ะๆ


ทีนี้เรารู้ศัพท์เรื่องขนๆ ไปแระ มารู้จักกริยาที่ใช้กะศัพท์พวกนี้นะจ๊ะ ไม่งั้นถึงเวลาใช้จริงจะพูดยังไงล่ะเนอะ

[jiǎn] "ตัด" สำหรับตัดผม เราใช้ว่า 头发 [jiǎn tóufǎ]

[bá] "ถอน" เช่นถอนขนคิ้ว ใช้ว่า 眉毛 [bá méimáo]

[guā] "โกน" เช่นโกนหนวด ใช้คำว่า 胡子 [guā húzi] หรือโกนขนขา (ถ้าขนหน้าแข้งดกไปหน่อย) ใช้ 脚毛 [guā jiǎo máo]

[xiū] "เล็ม" ให้เข้ารูปให้สวยงาม ใช้ได้หลายขนเลยจ้า เช่น 
头发 [xiū tóufǎ] เล็มผมให้เข้าทรง 
หรือเล็มขนคิ้วให้เป็นทรงใช้ 眉毛 [xiū méimáo]


เวลาต้องการจะไปร้าน "กำจัดขน" ให้มองหาคำว่า 除毛 [chú máo] เช่น กำจัดขนจักกุแร้ เค้าใช้คำว่า 腋下除毛 [yè xià chú máo] 
หรือกำจัดขนบิกินี่ให้ใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ ก็ใช้  阴毛除毛 [yīnmáo chú máo] คับ^^ 

ส่วนวิธีการกำจัดขนที่เราเห็นบ๊อยบ่อยก็มีอยู่สองตัวเนอะคะ คือ 
密蜡除毛 [mì là chú máo] = กำจัดโดยใช้แว๊กซ์ 
สังเกตว่า 蜡 ตัวนี้มี 偏旁 [piānpáng] คือ 虫 มาจากแมลง เพราะเราเอาแว๊กซ์มาจากไขขี้ผึ้งของผึ้งจ๊ะ




ส่วนถ้าใช้เลเซอร์กำจัดขนจีนแผ่นดินใหญ่เค้าเรียก 
激光除毛 [jīguāng chú máo] 
ถ้าไต้หวันเค้าเรียกทับศัพท์ว่า 雷射除毛 [léi shè chú máo] léi shè ก้อคือเลเซอร์นั่นเองงง




จบโพส (เพื่อการศึกษา) เรื่องขนๆ แต่เพียงเท่านี้คร้าบบบบ หวังว่าจะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้านะคะ

สุ่ยหลิน^^

ปอลิง สุ่ยหลินล่ะหนักใจเรื่องหาภาพประกอบโพสนี้จริงจริ๊งงงง...บอกเลย อิ อิ


*************************
สุ่ยหลินมีข่าวมา (อยาก) บอกทุกคนว่าสุ่ยหลินกำลังจะมี eBook เล่มแรกของตัวเองนะคะ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดหน้าและทำปก จะขายผ่านทาง Ookbee ในเดือนมกราคมปีหน้านี่เองแว้วค่า^^

ฝากติดตามกันเหมือนเคยๆ นะคะ
ขอบคุณคร้าบป๋มมม^^


*************************
ติดตามเรื่องราวสนุกๆ น่าสนใจ มีสาระเกี่ยวกับภาษาจีนได้ที่
FB: https://www.facebook.com/chinesexpert/
Blog: http://chinesexpert.blogspot.com/
Line@ : @xulin




Thursday, December 17, 2015

才 VS 就 ต่างกันยังไงนะ??

才 VS 就 ต่างกันยังไงนะ

หลังจากเราเถิดเทิงทิงนองนอยกันมาเยอะแระ กลับมาเรียนภาษาจีนกันต่อนะจ๊ะ^^ เอาน่า อย่าเพ่อเบ้สิจ๊ะ เรียนมั่งเล่นมั่งจะได้ไม่เบื่อน้า แถมคำศัพท์วันนี้ที่สุ่ยหลินเลือกมานี่เป็นคำถามมาจากคุณผู้อ่านทางบ้าน (พูดเหมือนรายการทีวีม่ะ อุ อิ) ซึ่งเป็นศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ งงบ่อยๆ ด้วย เรียนไว้มีประโยชน์ชัวร์ๆ จ้า

ติดตามน้า^^



才 VS 就 2 ตัวนี้ต่างกันยังไงนะ?? สุ่ยหลินมีคำตอบค่าาา

จริงๆ แล้วทั้ง 才 และ 就 เป็นคำวิเศษณ์ (adverb)  วางไว้หน้ากริยา ซึ่งทั้งสองตัวนี้มีคำแปลและวิธีการใช้หลากหลายมั่กๆ ค่ะ แต่ที่สุ่ยหลินยกมา battle กันในโพสนี้ ก็เพราะว่าทั้ง  才 และ 就 นี้ สามารถเน้นบอกอารมณ์ของผู้พูดว่า รู้สึกยังไงกับกริยาหรือการกระทำที่เกิดขึ้น ซึ่งมักจะมีเวลามาเกี่ยวข้องได้เหมือนๆ กันด้วยนะ

เริ่มกันก่อนเลยที่มุมแดง 才 [cái] 

才 จะแสดงอารมณ์ว่าผู้พูดรู้สึก ว่ากริยาหรือการกระทำนั้นเกิดขึ้นช้ากว่าที่คาดหวังไว้ ซึ่งก็แน่นอนอ่ะค่ะ ว่าผู้พูดอาจจะออกแนวบ่น เซ็งห่าน ไม่พอใจ หนักข้อกว่านั้นก็คือโกรธที่ไม่ได้ดังใจ เฮ่ย!

โครงสร้างการใช้ง่ายมว๊ากก คือ
才+ กริยา 

เช่น

她四十岁才结婚。

[Tā sìshí suì cái jiéhūn.] 
เธออายุ 40 เพิ่งจะแต่งงาน  (ตัวอย่างอาจจะเจ็บจิ๊ด แต่ไม่เจอคนดีก็อย่าแต่งเนอะ ชิส์!)

我昨天晚上十二点才睡觉。
[Wǒ zuótiān wǎnshàng shí'èr diǎn cái shuìjiào.]
เที่ยงคืนเมื่อวานกว่าชั้นจะได้นอน (อารมณ์เซ็ง เบื่อ ง่วงที่นอนดึก)


ตามมาด้วยมุมน้ำเงิน 就 [jiù]

就 ใช้แสดงอารมณ์ของผู้พูดว่า กริยาหรือการกระทำนั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด แสดงอารมณ์ประหลาดใจ เซอร์ไพรส์ และมักจะพาเพื่อนสนิท 了 [le] มาปิดท้ายประโยคด้วยนะ

โครงสร้างการใช้ ก็ง่ายมว๊ากกกอีกแว้ว คือ
就 + กริยา + (了)

เช่น
他下午四点就吃晚饭。
[Tā xiàwǔ sì diǎn jiù chī wǎnfàn.]
เพิ่งจะสี่โมงเย็น เค้าก็กินข้าวแล้วอ่ะ (โหห..กินเร็วเนอะ--ความรู้สึกคนพูด)

他十六岁就上大学了。
[Tā shíliù suì jiù shàng dàxuéle.]
เค้าเพิ่งจะอายุ 16 ก็เข้ามหาลัยแล้ว (โหห...เก่งอ่ะ เรายังเรียนอยู่ ม.5 อยู่เรย--ความรู้สึกของคนพูด)


คราวนี้เราลองจับทั้งคู่มา battle ในเพลง เย้ยย!! ประโยคแบบเดียวกันค่ะ จะได้รู้ความแตกต่างชัดๆ นะ

เช่น
八点上课,他七点就来了。
[Bā diǎn shàngkè, tā qī diǎn jiù lái le.]
เริ่มเรียนแปดโมง เค้าเจ็ดโมงก็มาแล้ว (มาเร็วอ่ะ เรายังอยู่บนรถเมล์อยู่เรย--ความรู้สึกของคนพูด)

八点上课,他八点半才来。
[Bā diǎn shàngkè, tā bā diǎn bàn cái lái.]
เริ่มเรียนแปดโมง เค้าแปดโมงครึ่งเพิ่งจะมา (ไมไม่มา 9 โมงไปเลยล่ะจ๊ะ -ความรู้สึกของคนพูด ซึ่งอาจเป็นอาจารย์วิชานั้น ><')


他早上六点就起床。
[Tā zǎoshang liù diǎn jiù qǐchuáng.]
เค้าเพิ่งจะหกโมงเช้าก็ตื่นแล้ว (โหห..ตื่นเช้าอ่ะ เราตื่น 7 โมงแน่ะ --ความรู้สึกของคนพูด)

他早上八点才起床。
[Tā zǎoshang bā diǎn cái qǐchuáng.]
เค้าแปดโมงเช้ากว่าจะตื่น (โหห...มิน่ามาสายทูกวันน --ความรู้สึกของคนพูด)


เป็นไงมั่งคะ? หวังว่าคงพอเข้าใจกับอารมณ์ของประโยคที่มี 才และ 就 ว่าผู้พูดรู้สึกยังไงกับกริยาหรือการกระทำในประโยค ถ้าหากว่าช้ากว่าที่คาดก็ใช้ 才 นี่เลย  แต่ถ้าเร็วกว่าที่คาดการณ์ก็ให้ 就 แสดงบทบาทไปนะคะ ไม่ยากเลยใช่ป่าว เพราะว่าของยากจริงๆ คือต่อจากนี้ ถึงเวลาแบบฝึกหัดหรรษากันแล้ว อิ อิ

ตกลงว่างานไหนยากกว่า?

两个人就能办好。
[Liǎng gèrén jiù néng bàn hǎo.]

两个人才能办好。
[Liǎng gèrén cáinéng bàn hǎo.]

โน้ตติดนุงว่า บางครั้ง การใช้ 才และ  就 อาจจะไม่เกี่ยวกับว่า การกระทำนั้นเกิดช้าหรือเร็วกว่าที่ผู้พูดคาดการณ์ไว้ค่ะ แต่เกี่ยวกับความยากง่าย ความมากน้อย ความใหญ่เล็กหรืออื่นๆ ก็ได้ค่ะ เช่นประโยคแบบฝึกหัดนี้ค่า

คำถามคือ อารมณ์ของ 2 ประโยคข้างบนนี้ ในความคิดของคนพูด คนพูดคิดว่างานไหนยากกว่ากันค่ะ 

ตอบมากันได้นะจ๊ะ เดวสุ่ยหลินมาเฉลยทีหลังนะครัชชช

สุ่ยหลิน^^


*************************
สุ่ยหลินมีข่าวมา (อยาก) บอกทุกคนว่าสุ่ยหลินกำลังจะมี eBook เล่มแรกของตัวเองนะคะ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดหน้าและทำปก จะขายผ่านทาง Ookbee ในเดือนมกราคมปีหน้านี่เองแว้วค่า^^

ฝากติดตามกันเหมือนเคยๆ นะคะ
ขอบคุณคร้าบป๋มมม^^
*************************

ติดตามเรื่องราวสนุกๆ น่าสนใจ มีสาระเกี่ยวกับภาษาจีนได้ที่
FB: https://www.facebook.com/chinesexpert/
Blog: http://chinesexpert.blogspot.com/
Line@ : @xulin


Wednesday, December 16, 2015

อยากรู้จังผู้หญิงจีนสมัยก่อน เค้าแต่งตัวกันยังไงนะ??

ทุกคนเคยเป็นอย่างสุ่ยหลินไหมคะ เวลาดูหนังจีนโบราณๆ เนี่ย ก็นึกในใจว่าคนสมัยก่อนเค้าแต่งตัวเซ็กซี่โป๊ เหมือนกันเนอะ ยิ่งอย่างเรื่อง The Empress of China (武媚娘传奇) [Wǔmèiniáng chuánqí] ซึ่งเค้าว่าเป็นยุคถัง (唐代) ยุครุ่งเรืองของจีน ยิ่งคิดว่า เห้ยย...โชว์กันขนาดเนี้ย ท่านฮ่องเต้อาจไม่มีกะใจทำงานนะ จิตใจคงระส่ำระสายน่าดู เลือดกำเดาอาจพุ่งได้ อิ อิ

ก็เลยลอง search อากู๋ดูเรื่องการแต่งกายของสาวชั้นสูงจีนโบราณกันค่า เค้าก็คุยกันหลายแบบ หลายแนวว่าจริงๆ แล้วสาวชาวจีนโบราณสมัยถังเค้าแต่งตัวยังไง แบบนั้นแบบนี้ สุ่ยหลินว่าน่าสนใจดีก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟังนะคะ บอกก่อนว่าอ้างอิงเชิงวิชาการไม่ได้นะตัวเอง เอาไว้อ่านกันหนุกหนานๆ จ้าา 

ลองคิดดูในใจเล่นๆ กันก่อนสมัยก่อนเค้าแต่งตัวกันยังไงนะ เหมือนอย่างที่เราเห็นในหนังอ่ะป่าว??

ติดตามค่าา 

อย่างแรกเป็นที่ถกเถียงกันว่าสาวชาววังสมัยถังเค้าใส่เสื้อเกาะอกจิงอ๊ะป่าว?? อยากรู้จิมๆ  ใส่ตู้มๆ อย่างงี้เลยเรอะ

ภาพจากอากู๋ จากในหนังเรื่อง The Empress of China (武媚娘传奇)

จริงๆ แล้วสาวชาววังชั้นสูงเค้าก็ใส่เสื้อเกาะอกกันตัวว์ อันนี้ไม่ได้โม้เพราะเค้ามีภาพวาดสมัยถังซึ่งเป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากชื่อว่า 簪花仕女图  [Zān huā shìnǚ tú]  = ภาพสาวกับปิ่นปักผมดอกไม้ จะเห็นว่าเค้าใส่เกาะอกมาตั้งแต่ปีมะโว้แว้ว  แต่ที่อลังการงานสร้างสำหรับสุ่ยหลินมากคือทรงผมค่าาท่านผู้ชม เอ้ย..ท่านผู้อ่าน อลังการแบบเนี้ยเวลานอนทำไงเนี่ย ก็เข้าใจล่ะว่าต้องเอาปิ่นออก แต่นอนไงไม่ให้ผมยุ่งนะ - - ' สุ่ยหลินนอนตื่นมาทีไรผมยุ่งมากแถมเบี้ยวไปข้างๆ ทุกวัน ทำผมทรงนี้ไม่รอดแน่ๆ

แถมอีกอย่างคิ้วของนางนั้นคืออาไล??!!
สรุปได้คำเดียวว่างามสมัยก่อนกะงามสมัยนี้มันต่างกันเนอะ งืมๆๆ




มาลองดูกันอีกรูปค่า ก็จะเห็นว่าแฟชั่นเค้าก็ใส่เกาะอกเหมือนกันนะ แถมผ่าลึกเล็กน้อยมีปริ่มๆ พอกระชุ่มกระชวยฮ่องเต้นะคะ^^  ส่วนทรงผมก็ยังคงอลังการงานสร้างเหมือนเดิม

ภาพนี้มาจากฝาผนังในหลุมฝังพระศพเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ถังพระองค์หนึ่งค่ะ


สุ่ยหลินไปอ่านเจอเค้าว่ามาว่า (จริงเท็จไม่รู้ก๊าบ) ราชวงศ์ถังเป็นยุคที่ผู้หญิงจีนมีอำนาจเยอะสุดแระ ตั้งแต่สมัยโบราณมา มีอำนาจขึ้นเป็นจักรพรรดินีด้วย (บูเช็คเทียน) และพอเมื่อมีสิทธิ มีอำนาจเยอะกว่ายุคอื่น ก็เลยสะท้อนมาถึงการแต่งตัวด้วย ว่าง่ายๆ คือสามารถเปิดเผยผิวพรรณได้มากกว่ายุคใดๆ ค่า

ถ้าอย่างนั้นใส่เกาะอกมีจิงแล้ว ก็เลยมีคนมาถกกันว่า การแต่งกายในหนังตกลงเหมือนจริงแค่ไหนกันนะ? โดยเฉพาะจากเรื่อง The Empress of China (武媚娘传奇) ซึ่งเป็นเรื่องที่นำเสนอช่วงเวลาของหนังในยุคราชวงศ์ถังโดยตรง

จากซ้าย ฟ่านปิงปิงสุดสวย-โจวไห่เม่ย อายุมากแต่ก็ยังสวย -- คนขวาลืมชื่อคับ  - - '


เค้าคุยกันว่าผิดจ้าาาา  นอกเหนือจากแค่เกาะอกที่เหมือนแล้วที่เหลือไม่เหมือนเลย เพราะอันดับแรกใส่ชุดเว่อร์วังอลังการมากไม่น่าใส่ได้ในชีวิตจริง  ใส่แล้วก็ไม่น่าสบายเท่าไหร่ การแต่งหน้า หน้าตา รวมถึงรูปร่างที่ผอมเพรียวก็เป็นอุดมคติความสวยของคนสมัยใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมาด้วย พูดง่ายๆ คือแบบนี้ไม่เรียกว่าสวยในสมัยถัง แถมที่สำคัญนักแสดงทุกคน "เจาะหู" ซึ่งถือว่าผู้หญิงสมัยก่อนไม่ทำเพราะเชื่่อกันว่าเป็นการ "ทำลาย"  ร่างกายตัวเองตามความเชื่อของลัทธิเต๋า

ถ้าอย่างนั้น สาวๆ สมัยถังเค้าแต่งตัวกันยังไงนะ??

โอม..ภาพประกอบจงมาา


จากภาพวาดโบราณเราจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเลยระหว่างภาพวาดสมัยก่อนกับหนังสมัยนี้คือเรื่อง "รูปร่าง" 

ใช่แว้วค่าา สมัยก่อนเค้านิยมสาวอวบ เพราะการใส่เสื้อเกาะอกแบบเนี้ยสาวอวบใส่สวยกว่าสาวผอมบาง  ดังนั้น ความงามในสมัยถังคือผู้หญิงต้องอวบจึงงาม (ธ่อ..เพิ่งรู้ว่าตัวเองเกิดผิดยุค ก็เกิดสมัยถังสุ่ยหลินก็นางงามดีๆ นิเอง อิ อิ)

ที่นี้ก็เลยมีคนคิดว่าถ้าอิงจากภาพสมัยก่อน สาวจีนแต่งตัวอย่างภาพนี้ ลองเอามาแต่งดูในยุคนี้จะเป็นไงนะ?



ก็ได้ผลออกมาแบบนี้ค่า


เอิ่ม...อะไรไม่ว่าแต่สุ่ยหลินว่าแก้มแดงไปนะ


ลองดูอีกสักชุด


ส่วนตัวแล้วสุ่ยหลินว่าเสื้อผ้าง๊ามงาม แต่ผมกะเมคอัพคืออาไร??!! 
สังเกตดูเค้านิยมเขียนหน้าผากในบางรูปด้วยน้า คล้ายเจิมจากวัดหรือป่าว??

นอกจากนี้อ่านเจอมาว่าสาวสมัยโบราณก็ไม่ต่างกับสมัยนี้ มีชุดใส่หลายชุดเหมือนกัน ไม่ว่าจะไปเที่ยว อยู่บ้าน ไปตลาด ไปชอปปิ้ง ไปห้าง เห้ยย.. เค้าก็ใส่ชุดที่แตกต่างกันไปตามวาระและโอกาสเหมือนกันค่ะ ไม่ได้มีชุดเดียวใช้ทั้งปีนะ 

ดูภาพมาเยอะแระ เดวหาว่ามโนกันงู้นงี้งั้น ลองดูงานปั้นสาวๆ สมัยถังดีกว่า 


เป็นไปตามภาพค่าา เทรนด์สาวอวบมาแรง สุ่ยหลินล่ะนับถือทรงผมจิงจิ๊ง ทำได้ไง??

ชอบกันหรือป่าวจ๊ะ ชอบกันบอกเค้าด้วยจะได้มีตอนต่อไปคร่าาา^^

หาข้อมูลจบสรุปสุ่ยหลินได้ข้อสรุปมาคำเดียววว อยากไปเกิดยุคถังซะจิงจิ๊ง สงสัยหัวกะไดจะไม่แห้ง อุ อุ

สุ่ยหลิน^^

*************************
สุ่ยหลินมีข่าวมา (อยาก) บอกทุกคนว่าสุ่ยหลินกำลังจะมี eBook เล่มแรกของตัวเองนะคะ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดหน้าและทำปก จะขายผ่านทาง Ookbee ในเดือนมกราคมปีหน้านี่เองแว้วค่า^^

ฝากติดตามกันเหมือนเคยๆ นะคะ
ขอบคุณคร้าบป๋มมม^^

*************************

ติดตามเรื่องราวสนุกๆ น่าสนใจ มีสาระเกี่ยวกับภาษาจีนได้ที่
FB: https://www.facebook.com/chinesexpert/
Blog: http://chinesexpert.blogspot.com/
Line@ : @xulin













Sunday, December 13, 2015

แมวเป็นอะไรได้หลายอย่างกว่าที่คิด!! (ศัพท์จีน)

สุ่ยหลินไปเจอรูปแมวนี้จากลิงค์ของเว็บแพนด้าเบื่อ ในฐานะทาสแมวคนนึงเหมียนกัล แต่เลี้ยงไม่ได้ค่าาเพราะอยู่คอนโด TT เลยชอบมากๆ เป็นพิเศษ จนอยากเอามาแบ่งปันแฟนเพจจ้า คอนเซปต์คือเค้าให้รูปแมวอ้วนนั่งบนกระดาษขาวๆ 1 รูป แล้วใครมีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์อะไรๆ ก็ใส่ไปได้ 

เว็บแพนด้าเบื่อเค้าให้คนมาแสดงความคิดสร้างสรรค์แต่งรูปต้นฉบับเอาฮาๆพร้อมคำบรรยาย มาโหวตกันค่ะ บางรูปสุ่ยหลินก็แปลของเค้า บางรูปก็เขียนคำบรรยายเอาเองเพื่อความมันส์เนาะ

ติดตามโพสฮาๆ ชวนกระตุกยิ้ม รับวันจันทร์คร้าบบบบ





ภาพแมวอ้วนต้นฉบับ 
(น่าฟัดเนอะ อ้วนมั่กๆ กั่กๆๆ --อย่าตกใจนี่คือเสียงฟัด)




我是个体操运动员。[Wǒ shì gè tǐcāoyùndòngyuán.] 
= นู๋เป็นนักกีฬายิมนาสติกจ๊ะ (ขาตรงเป๊ะเว่อร์)





我正在滑板 。[Wǒ zhèngzài huábǎn.] 
= (ใครบอกป๋มอยู่เฉยๆ) กะลังสเก็ตบอร์ด (ต่างหาก)




蜘蛛猫 [zhīzhū māo] = Spidercat 
ป๋มคือแมวมะรุม เอ้ย แมวแมงมุมค้าบ





正在骑单车。[zhèngzài qí dānchē
= กำลังขี่จักรยานเฟ้ย (ตูเดอฟรองอีกไม่ไกล)




阳光浴 [yángguāngyù
= นอนอาบแดดดีก่า (อกแน่นมว๊ากก)



游泳 [yóuyǒng] = ว่ายน้ำครัชช





不要打扰,我在看书![Bùyào dǎrǎo, wǒ zài kànshū!] 
= อย่ารบกวนเก๊าได้ม่ะ กำลังอ่านหนังสือ



วันจันทร์แล้วอย่าเพิ่งเหนื่อยท้อน้า ใกล้สิ้นปีอีกเดวได้หยุดยาวแว้วจ้า
加油!加油!

สุ่ยหลิน^^


ที่มารูปภาพ http://www.boredpanda.com/funny-doodles-on-lovely-cat-photo/ utm_source=facebook&utm_medium=link&utm_campaign=BPFacebook




------------------------------------------

สุ่ยหลินมีข่าวมา (อยาก) บอกทุกคนว่าสุ่ยหลินกำลังจะมี eBook เล่มแรกของตัวเองนะคะ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดหน้าและทำปก จะขายผ่านทาง Ookbee ในเดือนมกราคมปีหน้านี่เองแว้วค่า^^

ฝากติดตามกันเหมือนเคยๆ นะคะ
ขอบคุณคร้าบป๋มมม^^

*************************

ติดตามเรื่องราวสนุกๆ น่าสนใจ มีสาระเกี่ยวกับภาษาจีนได้ที่
FB: https://www.facebook.com/chinesexpert/
Blog: http://chinesexpert.blogspot.com/
Line@ : @xulin

Friday, December 11, 2015

老 ไม่ได้แปลว่าแก่ได้อย่างเดียวนะ!!

老 ไม่ได้แปลว่าแก่ได้อย่างเดียวนะ แปลอย่างอื่นได้อีกตั้งเย๊อะแน่ะ!!

สุ่ยหลินว่าคำว่า 老 [lǎo] เป็นหนึ่งในคำศัพท์แรกๆ ที่พวกเราชาวเรียนจีนต้องรู้จักเลยล่ะค่ะ เพราะพอเริ่มเรียนภาษาจีนปุ๊ปเราก็ต้องเรียกอาจารย์ในห้องว่า 老师 ดังนั้นพวกเราก็พอคุ้นเคยกับคำนี้อยู่ใช่ป่ะ 

แต่พอเรียนๆ ไปเราพบว่า 老 = แก่ หลายคนเลยอาจมีแอบงงว่างั้น 老师 ต้องหมายถึงอาจารย์ที่แก่เสมอไปเหรออ?? 
ทำไมอาจารย์ไม่แก่ก็ต้องเรียก 老师 ด้วย ทำไมคนจีนใช้ 老 แบบนี้ล่ะ??

ไม่ช่ายค่าาา จริงๆ แล้วคำว่า 老 ในภาษาจีนน่ะ แปลได้หลายความหมายมากๆ เลยนะ แค่คำว่า 老 ของ 老师 ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกะความแก่เลย น่าสนใจใช่ไหมคะ งั้นมาติดตามความหมายของคำว่า 老 ที่ไม่แปลว่าแก่ในโพสนี้กะสุ่ยหลินเรยค่าาา^^




老 แปลว่าอะไรได้มั่งในภาษาจีนนะ?


1. ใช้แสดงความเคารพยกย่อง

เมื่อวาง老 ไว้หน้าอาชีพค่ะ เช่น 
老师 [lǎoshī] = อาจารย์ , 
老教授 [lǎo jiàoshòu] = ศาสตราจารย์ , 
老中医 [lǎo zhōngyī] = คุณหมอแผนจีน

บางครั้งก็ใช้เพื่อแสดงเคารพเทิดทูนก็ได้อีก จัดอยู่ในหมวดนี้เหมือนกันนะ เช่น 老天爷 [lǎotiānyé] = เทพยดา (จะหนุ่มจะแก่ก็ได้ค่ะ ณ จุดนี้ อิ อิ)



2. ใช้เพื่อแสดงความใกล้ชิดสนิทสนม

เรากับเพื่อนที่สนิทกัน สามารถแสดงความใกล้ชิดในการเรียกหาได้ โดยการทำให้เค้าดูแก่กว่าเรา เห้ยย!! ไม่ช่ายค่ะ โดยการเติม 老[lǎo] ข้างหน้าแซ่ค่ะ เช่น 
老张 [lǎo Zhāng], 老王[lǎo Wáng], 老李[lǎo Lǐ], 老赵 [lǎo Zhào] หรือ 老吴 [lǎo Wú] 

การใช้ 老 ตรงนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่อายุว่าแก่กว่าเราหรืออะไรนะคะ แต่ 老 ตรงนี้หมายถึงเพื่อนเกลอ เพื่อนเก่า เพื่อนสนิทแบบนี้มากกว่าจ๊ะ

นอกจากนี้ ภรรยาจะเรียกสามีว่า 老公 [lǎogōng] สามีจะเรียกภรรยาว่า 老婆 [lǎopo] และเราก็เรียกคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานว่า 老伴 [lǎobàn] (伴 = เพื่อนสนิท คู่คิด ภาษาฝรั่งแปลว่า partner ครัช) ก็ได้ค่ะ เช่นเดียวกัน คำเรียกที่มี 老 พวกนี้คือการแสดงความใกล้ชิด รู้จักกันมานาน อยู่ด้วยกันมานานค่ะ

หรือจะใช้ร่วมกับคำอื่นๆ ก็ได้อีกนะ (ครอบจักรวาลจิงจิ๊ง) เช่น 老同学[lǎo tóngxué] = เพื่อนนักเรียนเก่า 老朋友 [lǎo péngyou] = เพื่อนเก่า

ปอลิง หากรู้จากกันมาน๊านนาน เพื่อนเก่าก็อาจจะเป็นเพื่อนแก่จริงๆก็ได้นะ (และเราก็แก่ลงไปพร้อมกันด้วยอ่ะดิ TT)


3. ใช้เพื่อแสดงดีกรีที่มากๆ สุดๆ

ในความหมายเหมือน 很 เลยค่ะ เป็นการบอกดีกรีที่มากขึัน โดยการเติม 老 เข้าไปข้างหน้า เช่น

老早 [lǎo zǎo] = เช้ามากๆ
老远 [lǎo yuǎn] = ไกลมากๆ
老好了[lǎo hǎo le] = ดีฝุดๆ

4. ใช้เพื่อใช้บอกลำดับในครอบครัว

หากว่าพี่น้องในครอบครัวมีเยอะ (แบบคนจีนครอบครัวใหญ่สมัยก่อน) จะนิยมใช้ลำดับการเกิดมาเรียกหากันค่ะ เช่นพี่ใหญ่ พี่รอง น้องสี่ น้องเล็ก เรียกต่อๆ กันไปจนครบค่ะ (เหมือนละครจีนไง คุณชายสี่ คุณชายรอง คุณชายใหญ่ ฯลฯ)

ส่วนน้องๆ ก็จะเรียกพี่ๆ ด้วย 老 ตามด้วยลำดับการเกิด ง่ายม่ะ เช่น 老大 [lǎo dà] = พี่ใหญ่ , 老二 [lǎo èr] = พี่รอง , 老三 [lǎo sān] = พี่สาม ประมาณนี้

5. ใช้เพื่อแปลว่าประจำหรือบ่อยๆ

สุดท้าย 老 ยังใช้แสดงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆอเป็นประจำได้อีกด้วยนะคะ แต่ความหมายมักจะใช้แบบออกแนวบ่นๆ หน่อยนึง

โครงสร้างนี้  

老是 + กริยา (V) หรือ คำคุณศัพท์ (Adj)

เช่น
他老是迟到 。[tā lǎo shì chídào] = เซ็ง! เขาอ่ะมาสายประจำ

你老是加班。[nǐ lǎo shì jiābān] = เธอทำโอทีบ่อยจัง (ความหมายประมาณว่าทำไมทำบ่อยจัง จะนัดทีไรก็ไม่ว่างซ้ากกที)



จบแว้วนะคะกับการใช้ 老 จะเห็นว่าไม่ยากเท่าไหร่เรยน้า เพราะจริงๆ เราก็คุ้นเคยกับการดูหนังจีน ละครจีนอยู่แล้ว ก็ได้ยินผ่านๆ หูกันมามั่ง เพียงแต่ยังไม่เคยแจกแจงออกมาให้ดูกันเท่านั้นเองเนอะ


เห็นม่ะภาษาจีนไม่ยาก ตั้งใจเรียนไปด้วยนะคะ
我们是老朋友!

------------------------------------------

สุ่ยหลินมีข่าวมา (อยาก) บอกทุกคนว่าสุ่ยหลินกำลังจะมี eBook เล่มแรกของตัวเองนะคะ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดหน้าและทำปก จะขายผ่านทาง Ookbee ในเดือนมกราคมปีหน้านี่เองแว้วค่า^^


ฝากติดตามกันเหมือนเคยๆ นะคะ

ขอบคุณคร้าบป๋มมม^^



*************************

ติดตามเรื่องราวสนุกๆ น่าสนใจ มีสาระเกี่ยวกับภาษาจีนได้ที่
FB: https://www.facebook.com/chinesexpert/
Blog: http://chinesexpert.blogspot.com/
Line@ : @xulin