นอกจากนี้ครอบครัวคนจีนมีความเชื่อกันว่าการสอบเอนทรานซ์สามารถเปลี่ยนชีวิตนักเรียนได้ การได้เรียนมหาลัยดีๆ หมายถึงอนาคตที่ดีขึ้น เป็นจุดมุ่งหมายของเด็กนักเรียนทุกคน ถ้าเอนท์ไม่ติดไม่มีที่เรียนก็ต้องออกมาทำงานรับจ้าง เคยถามอาจารย์ว่าเอนท์ไม่ติดก็เอนท์ใหม่ปีหน้าสิ อาจารย์บอกว่าตัวเลขนักเรียนม.6 สอบเอนท์ปีๆ หนึ่งเกือบ 10 ล้านคน (ปี 2014 มี 9.8 ล้านคน) ปีนี้เอนท์ไม่ติด ปีหน้าสอบใหม่ก็ได้ แต่ก็ต้องสู้กับอัตราส่วนคนสอบใหม่ในปีหน้าอันมหาศาลเหมือนเดิม T_T
และเพราะความเครียดความกดดันสูงนี้เอง จึงที่มาของแรงกดดันมหาศาลไม่เพียงแต่ไปยังเด็กนักเรียนเท่านั้น ยังรวมไปถึงครอบครัวของเด็กด้วย ครอบครัวจากชนบทยอมกู้หนี้ยืมสินส่งลูกเรียนขอให้เอนท์ติด หลายครอบครัวเชื่อว่าเอนท์ไม่ติดชีวิตจะพังทลาย มีตัวเลขการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นทุกปีเพราะเอนท์ไม่ติดด้วย
ในภาพชุดเหล่านี้เป็นการถ่ายภาพของนักเรียนม.ปลายในมณฑลเหอหนาน แสดงถึงชีวิต ความเครียด ความกดดัน ความคาดหวังของทั้งนักเรียนและครอบครัวเพื่อเตรียมการสอบเอนทรานซ์ในปี 2014 ที่แล้วมาค่ะ (ของปีนี้กำลังจะเริ่มกันเดือนหน้านี้แหละค่ะ)
มาติดตามชีวิตของเด็กนักเรียนม.ปลายชาวจีน เพื่อเตรียมตัวสอบเอนทรานซ์กันค่ะ
*****
จากพาดหัวข่าว高考战争
1. 高考(gāo kǎo) (เกา เข่า) = การสอบเอนทรานซ์ (เป็นชื่อเล่น เอามาจากตัวย่อ 2 ตัว มีชื่อจริงยาวเป็นวาว่า普通高等学校招生全国统一考试)
2. 战争 (zhàn zhēng) (จ้าน เจิง) = สงคราม
(บทความนี้เคยลงใน Pantip ค่ะ ถ้าอยากเข้าไปอ่านคอมเมนท์เพื่อนๆ หนุกหนานก็เชิญได้ค่ะ http://pantip.com/topic/32271333)
มณฑลเหอหนานซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดที่ประชากรมากที่สุดของจีน ในปี 2014 มีเด็กนักเรียนจีนเฉพาะในเหอหนานเตรียมสอบเอนทรานซ์ถึง 724,000 คน ทั้งนักเรียนรวมครูอาจารย์และพ่อแม่ ต่างก็แบกรับความกดดันไว้มากมาย รวมไปถึงความพยายามอย่างยาวนาน ทั้งหมดก็เพื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นวันสอบเอนทรานซ์ ทุกคนต่างมุ่งหน้าสู่ “สงครามเอนทรานซ์” พร้อมกับความเชื่อว่าจะเป็นวันที่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตได้
命运 (mìng yùn) (มิ่ง ยุ่น) = โชคชะตา
打仗 (dǎ zhàng) (ต่า จ้าง) = ต่อสู้,ออกรบ
狂(kuáng) (ขวง) = บ้า
模拟考试 (mó nǐ kǎo shì) (หมัว หนี เข่า ซื่อ) = การทำเลียนแบบการสอบจริง เช่น จับเวลาเท่าการสอบจริง รูปแบบข้อสอบใกล้เคียงกับข้อสอบจริง (อาจใช้ข้อสอบเก่า) เป็นต้น
坚持学习(jiān chí xué xí) (เจียน ฉือ สเว๋ สี) มุ่งมั่นเรียน
熄灯(xī dēng) (ซี เติง) = ดับไฟ
陆续 (Lù xù) (ลู่ ซู่) = ทีละน้อย, ทีละอย่างๆ
顾不上(gù bu shàng) (กู้ ปู ซ่าง) = ไม่สามารถเข้าร่วมหรือไม่สามารถจัดการ
寒窗(hán chuāng) (หาน ชวง) เป็นสำนวนหมายถึงชีวิตที่ต้องอดทน พากเพียรเรียน
锁(suǒ) (สั่ว) = ล๊อค (กริยา)
结束(jié shù) (เจี๋ย ซู่) = เสร็จสิ้น, จบ
乐趣 (lè qù) (เล่อ ชุ่ย) = ความสุข
欢笑 (huān xiào) (ฮวน เสี้ยว) = เสียงหัวเราะอย่างมีความสุข
หนุ่มคนนี้ชื่อหลี่ยิ่งถง เป็นนักเรียนห้อง 518 โรงเรียนจู้หม่าเตี้ยน และเป็นแชมป์เกมส์ออนไลน์ประจำจังหวัดด้วย เมื่อขึ้นม.ปลาย พ่อแม่ของหลี่ยิ่งถงซึ่งทำธุรกิจเล็กๆ ยอมทุ่มเต็มที่เพื่อการเรียนของเขา ที่บ้านของหลี่ยิ่งถง ในห้องเต็มด้วยหนังสือวางซ้อนๆ กันเป็นกองสูงจนถึงเพดานห้อง
生意(shēng yi) (เซิง อิ) = (ทำ)ธุรกิจ
舍得投资(shě de tóu zī) (เส่อ เตอ โถว จือ) = ยอมลงทุน
生意(shēng yi) (เซิง อิ) = (ทำ)ธุรกิจ
舍得投资(shě de tóu zī) (เส่อ เตอ โถว จือ) = ยอมลงทุน
干扰(gān rǎo) (กาน หร่าว) = รบกวน
留守(liú shǒu) (หลิว โส่ว) แปลตรงตัวหมายถึงเด็กที่ถูกทิ้ง (ไว้ข้างหลัง) โดยหมายถึงการที่พ่อแม่ของเด็กจำเป็นต้องไปทำงานที่ถิ่นอื่น หรือเป็นเด็กที่ต้องอยู่ที่ชนบทดำรงชีวิตตามลำพัง บางทีก็อยู่กับญาติหรือเพื่อนบ้าน
ย่าของนักเรียนชายคนนี้ พูดถึงความลำบากของครอบครัวจนกลั้นไม่อยู่น้ำตาไหล เพื่อดูแลหลาน ย่าวัย 70 กว่าปีมาจากต่างจังหวัดเช่าห้องเล็กๆ ใกล้ๆ โรงเรียนเพื่อดูแลหลาน ในบริเวณที่พวกเขาเช่าอยู่มีอีก 16 ครอบครัวและเด็กอีก 40 กว่าคนเช่าอยู่รวมกัน ทั้งหมดก็คือครอบครัวที่มาเช่าเพื่อดูแลลูกหลานที่กำลังเตรียมตัวสอบเอนท์
伤心落泪 (shāng xīn luò lèi) (ซาง ซิน ลั่ว เล่ย) = เจ็บปวดจนน้ำตาไหลออกมา
照顾 (zhào gu) (เจ้า กู) = ดูแล, เทคแคร์
争分夺秒(zhēng fēn duó miǎo) (เจิง เฟิน โต๋ว เหมี่ยว) เป็นสำนวนแปลว่าใช้เวลาทุกนาที, ต่อสู้ทุกนาที
疲惫(pí bèi) (ผี เป้ย) = เหนื่อยล้า
打点滴(dǎ diǎn dī) (ต๋า เตี่ยน ตี) การให้ยาผ่านทางหลอดเลือด
นักเรียนกำลังให้ออกซิเจนพร้อมกับอ่านหนังสือไปด้วยที่โรงพยาบาลเมืองซุ่ยหนิน
ครูโรงเรียนมัธยมกำลังทำการซ้อมสอบให้กับนักเรียน เพราะว่าเกาเข่าคือการสอบที่ชี้เป็นชี้ตายได้ การซ้อมสอบแบบนี้จึงได้รับความนิยมให้ทำกันมากขึ้นเรื่อยๆ
身经百战 (shēn jīng bǎi zhàn) (เซิน จิง ไป๋ จ้าน) = ทหารผ่านศึก,มีประสบการณ์อย่างโชกโชน
德胜门(Dé shèng mén) (เต๋อ เซิ่ง เหมิน) เป็นชื่อประตูชัยที่ปักกิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองทางเหนือ ปัจจุบันเป็นแลนมาร์คของถนนไฮเวย์วงแหวนรอบ 2 ของปักกิ่ง
วันสอบเกาเข่าปีนี้ตรงกับวันที่ 7-8 มิถุนายน 2014 มีนักเรียนจีนเข้าสอบทั้งสิ้น 9.8 ล้านคน จริงๆ แล้วการสอบเพียงแค่สองวันนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก สาเหตุเพราะความเครียดมหาศาลที่กดดันนักเรียนจากการสอบเพียงแค่ครั้งเดียว และเกาเข่าเองก็ถูกเชื่อมโยงว่าเป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นของจีนด้วย
โรงเรียนเหิงสุ่ย ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมที่มีประสบความสำเร็จในการสอบเกาเข่าสูงสุดตลอด 14 ปีที่ผ่านมา มีคติพจน์ประจำโรงเรียนอยู่ 2 ข้อ คือ “ชีวิตไม่ใช่การซ้อม เพราะว่าคุณจะไม่มีโอกาสได้ลองใหม่อีกครั้ง” กับ “ถ้าไม่ตายจากการเรียน ก็จงเรียนให้หนักขึ้นอีก” ที่โรงเรียนนี้นักเรียนจะเรียนหนังสือกันตั้งแต่ ตี 5.30-1ทุ่ม 50 ไม่ให้ใช้มือถือ และหยุดได้เดือนละวัน กล้องวงจรปิดถูกติดไว้ในแต่ละห้องเพื่อดูว่านักเรียนคนไหนจะขี้เกียจ ที่ทำอย่างนี้เพราะโรงเรียนเองก็ต้องการเตรียมให้นักเรียนสอบผ่านเกาเข่าให้ได้เหมือนกัน
กระทรวงศึกษาของจีนรายงานว่านักเรียนทุกคนกำลังต่อสู้กับที่นั่งในมหาลัยที่ว่างเพียง 6.5 ล้านที่ (คนสอบ 9.8 ล้านคน) การสอบแบ่งเป็น 3 วิชาหลักคือภาษาจีน เลขและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีการสอบเฉพาะทางด้วย ในอนาคตมีแผนที่ลดการเน้นการสอบภาษาอังกฤษลงแต่ไปเพิ่มการสอบภาษาจีนให้มากขึ้นแทน
โรงเรียนเหิงสุ่ย ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมที่มีประสบความสำเร็จในการสอบเกาเข่าสูงสุดตลอด 14 ปีที่ผ่านมา มีคติพจน์ประจำโรงเรียนอยู่ 2 ข้อ คือ “ชีวิตไม่ใช่การซ้อม เพราะว่าคุณจะไม่มีโอกาสได้ลองใหม่อีกครั้ง” กับ “ถ้าไม่ตายจากการเรียน ก็จงเรียนให้หนักขึ้นอีก” ที่โรงเรียนนี้นักเรียนจะเรียนหนังสือกันตั้งแต่ ตี 5.30-1ทุ่ม 50 ไม่ให้ใช้มือถือ และหยุดได้เดือนละวัน กล้องวงจรปิดถูกติดไว้ในแต่ละห้องเพื่อดูว่านักเรียนคนไหนจะขี้เกียจ ที่ทำอย่างนี้เพราะโรงเรียนเองก็ต้องการเตรียมให้นักเรียนสอบผ่านเกาเข่าให้ได้เหมือนกัน
กระทรวงศึกษาของจีนรายงานว่านักเรียนทุกคนกำลังต่อสู้กับที่นั่งในมหาลัยที่ว่างเพียง 6.5 ล้านที่ (คนสอบ 9.8 ล้านคน) การสอบแบ่งเป็น 3 วิชาหลักคือภาษาจีน เลขและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีการสอบเฉพาะทางด้วย ในอนาคตมีแผนที่ลดการเน้นการสอบภาษาอังกฤษลงแต่ไปเพิ่มการสอบภาษาจีนให้มากขึ้นแทน
แม่นักเรียนคนหนึ่งกำลังคอยลูกอยู่นอกประตูที่เหอเฝย มณฑลอันฮุย
นักเรียนกำลังขึ้นรถเมล์ไปสอบที่หลิวอัน มณฑลอันฮุย ครอบครัวรวมถึงเพื่อนๆ ของนักเรียนที่จะไปสอบต่างมาให้กำลังใจกันจนเต็มถนน
นักเรียน (คนซ้าย) กำลังอ่านหนังสือที่โรงแรมในเซี่ยงไฮ้ ที่เช่าไว้ใกล้กับสถานที่สอบเกาเข่า ที่ปักกิ่งคนขับรถแท็กซี่กว่า 1,700 คันยินดีขับรถไปส่งนักเรียนที่ต้องการไปสอบให้ฟรี
กล้องตรวจจับผู้เข้าสอบที่ซุ่ยหนิน มณฑลเสฉวน สำหรับใช้ตรวจจับกรณีโกงสอบ
นักเรียนฟุบหลับระหว่างพักอ่านหนังสือ โรงเรียนบางแห่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากำลังผลิต “หุ่นยนต์” ที่สามารถอ่านหนังสือได้มากกว่า 15 ชั่วโมงต่อวัน
นักเรียนกำลังท่องหนังสือด้วยตัวเองตอนกลางคืนที่เหอเฝย มณฑลอันฮุย มีตัวเลขเปรียบเทียบว่ามีผู้สอบเกาเข่า 9.8 ล้านในขณะที่มีคนสอบ SAT เพียง 1.8 ล้านคน
พ่อแม่ของนักเรียนที่ฮวายเป่ย มณฑลอันฮุยกำลังคอยลูกที่จะสอบเสร็จด้านนอก (ดูครั้งแรกนึกว่าม๊อบ)
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนักเรียนก่อนเข้าสอบที่เสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง เจ้าหน้าที่ให้คำปฏิญาณว่าจะจัดการกับการโกงสอบให้ได้
กล้องซ่อนในปากกา (ที่ 2 จากซ้าย) และตัวรับสัญญาณซึ่งทำให้เหมือนยางลบ ที่ตำรวจยึดได้จากนักเรียน
แว่นตาซ่อนกล้อง และตัวรับสัญญาณที่เป็นเหรียญวงเล็กๆ
อุปกรณ์การโกงสอบอย่างอลังถูกจับได้ที่เฉิงตู มณฑลเสฉวน
มือถือและตัวรับสัญญาณที่ถูกยึดมาได้ กระทรวงศึกษาจีนบอกว่านักเรียนที่ถูกจับได้ว่าโกงสอบต้องถูกตัดสิทธิ์สอบ 1-3 ปี
ตำรวจพยายามจัดให้นักเรียนเข้าแถวเพื่อลงทะเบียนสอบ
พ่อแม่คอยลูกสอบเสร็จที่เซี่ยงไฮ้ (ป้ายสีแดงเขียนว่า ช่วงนี้คือช่วงสอบเกาเข่า)
นักเรียนเดินออกมาหลังจากเพิ่งสอบเสร็จวันแรก (คนมหาศาลมากๆ)
No comments:
Post a Comment