คำแบบนี้ภาษาจีนเรียกว่า 多音字(duō yīn zì) หรืออักษรหลายเสียงค่าา (ในภาษาจีนมีอยู่ประมาณ 400 ตัว ไม่น้อยน้า)
แล้วจะแยกยังไงล่ะ ไม่งงแย่เร๊อะ!
สุ่ยหลินจะเฉลย ณ บัดนาวค่า โดยปกติ 多音字 ที่ออกเสียงได้มากกว่า 1 แบบจะแตกต่างกันเพราะเหตุผลดังนี้
1. ภาษาทางการ/ไม่เป็นทางการ
2. แตกต่างกันที่ความหมาย
( อธิบายเพิ่มเล็กน้อยถึงปานกลาง คือแบบที่ 1 เขียนเหมือนกันเด๊ะๆ แต่อ่านไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายความหมายก็เหมือนกัน กะแบบที่ 2 เขียนเหมือนกันเด๊ะๆ แต่อ่านไม่เหมือนกัน ความหมายก็เลยพลอยไม่เหมือนด้วย--อย่าเพิ่งงงน้า)
คือมันต้องต่างกันสักอย่างอ่ะค่ะ ไม่งั้นเค้าจะเรียกให้แตกต่างกันทำไมเนอะ
มาดูตัวอย่างคำ 多音字 ที่เจอกันบ่อย ๆ ดีกว่า มั่นใจเจอกันคราวหน้าไม่งงแร้วว
多音字 แบบที่ 1
• 谁 = ใคร ถ้าอ่านว่า (shéi) (เสย) ใช้กับภาษาพูด ถ้าอ่านว่า (shuí) (สุย) นิยมใช้กับภาษาเขียน
อันนี้แตกต่างกันที่ทางการกะไม่ทางการ แต่สรุปจากประสบการณ์ตรงของสุ่ยหลินจะเผลอพูด (เสย) หรือ (สุย) ก็ไม่มีปัญหาค่ะ คนจีนเค้าก็ฟังออก เพียงแต่ให้เรารู้ไว้ว่ามันต่างกันเพราะหยั่งงี้
• 熟 = คุ้นเคย ถ้าอ่านว่า (shóu) (โสว) ใช้กับภาษาพูด แต่ถ้าอ่านว่า (shú) (สู) ใช้กับภาษาเขียน (เหตุผลเหมือนข้างบน)
多音字 แบบที่ 2
• 行 ถ้าออกเสียงว่า (xíng) (สิง) เป็นคำกริยาจะแปลว่าเดิน หากว่าเป็น adj จะแปลว่าโอเคนะคะๆ หรือแปลว่าสามารถ ก็ย่อมได้
แตถ้าออกเสียงหลุดแนวไปเลยว่า (háng) (หาง) จะมีความหมายได้ 2 อย่าง อย่างแรกเป็นลักษณะนามแปลว่าแถว ลำดับหรือตอน อย่างที่สองหมายถึงสถานที่ เช่น 银行 (yínháng) = ธนาคาร
• 还 ถ้าออกเสียงว่า (hái) (หาย) จะแปลว่ายังคงเหลือ แต่ถ้าออกเสียงว่า (หวน) จะแปลว่าคืนค่ะ อันนี้ต่างกันที่ความหมาย
อยากให้ดูการ์ตูนประกอบนะ
เป็นภาพการ์ตูนล้อระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ทะเลาะกันในใบสัญญาแจ้งหนี้ 欠条 (qiàn tiáo) ว่าตกลงแล้ว “ยังเหลือต้องจ่ายอีก 35,000 หยวน” หรือ “คืนแล้ว 35,000 หยวน” กันแน่ ฝั่งลูกหนี้ (เสื้อเขียว) ก็บอกว่าคืนแล้วๆๆ เจ้าหนี้ (เสื้อฟ้า) ก็บอกว่า ยังเหลือๆๆ เป็นเช่นนี้แล
เห็นป่าวคะว่าคนจีนยังงง พูดผิดพูดถูก ก็เลยถึงต้องทำการ์ตูนมาล้อเรื่อง 多音字 คนไทยอย่างเราๆ ก็อย่าไปกลัวค่ะ อย่างมากก็แค่พูดผิดเท่านั้น พูดผิดก้อพูดใหม่ได้จ๊ะ
สุ่ยหลิน^^
ภาพจาก google
No comments:
Post a Comment